กรุ๊ปลีส เผยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2555 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3/2555 ที่มี
กำไรสุทธิ 106 ล้านบาท หลังยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ต่อเดือนเติบโต 3.5-4% ขณะเดียวกัน การบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับ 4.6-4.7% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 7% ด้านบริษัทลูก GLF ในประเทศกัมพูชาอยู่ในช่วงเริ่มต้นปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า เพื่อทดสอบระบบต่างๆ ผลตอบรับราบรื่น ปีหน้าเดินหน้ารุกธุรกิจเต็มสูบ
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานตั้งแต่ประกาศตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2555 จนถึงปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ต่อเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5-4% ทุกเดือน ขณะเดียวกัน สิ่งที่มีนัยสำคัญอีกประการหนึ่งของบริษัทฯ คือ การบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบัน ตัวเลข NPL ของบริษัทฯ อยู่ที่ประมาณ 4.6-4.7% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย NPL ของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 7%
“ตอนนี้ไตรมาสที่ 4 ผ่านมาครึ่งทางแล้ว เราเห็นสัญญาณที่ดี โดยในช่วงเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม การตัดสินใจซื้อรถจักรยานยนต์ชะลอลงไปบ้าง เนื่องจากความกังวลในสถานการณ์น้ำท่วม แต่ขณะนี้กลับมาอยู่ในภาวะปกติแล้ว ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศยังขยายตัวได้ดี จึงคาดว่าผลกำไรในไตรมาส 4/2555 จะดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/2555 ที่มีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท” นายมิทซึจิกล่าวและเสริมว่า กำไรไตรมาส 3/2555 เพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส
3/2554 ขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2555 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จำนวน 250.48 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชา ในนามบริษัทลูกชื่อ GL Finance หรือ GLF ขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจ และมีโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตอย่างมาก เนื่องจาก GLF เป็นผู้ให้บริการในธุรกิจเช่าซื้อรถจักยานยนต์ (ลีสซิ่ง) ที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศกัมพูชา และเป็นเพียงบริษัทเดียวที่มีสิทธิ (Exclusive right) ให้สินเชื่อในการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศกัมพูชา ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 95% ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสำนักงานขายในประเทศกัมพูชาจำนวน 11 แห่ง ซึ่งครอบคลุมกรุงพนมเปญ และเขตปริมณฑล โดยบริษัทฯ จะขยายสาขาสำนักงานขายให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั้งหมดของประเทศกัมพูชาภายในต้นปีหน้า
“ตลาดสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชานี้ มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ต้องใช้เงินสด หรือกู้จากธนาคารซึ่งมีความยุ่งยาก ธุรกิจลีสซิ่งของ GLF ซึ่งให้บริการอย่างสะดวก และอนุมัติสินเชื่ออย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจ และอยู่ในช่วงทดสอบความพร้อมโดยบริษัทฯ ได้ทดลองปล่อยสินเชื่อไปแล้วจำนวนประมาณ 100 ราย เพื่อทดสอบระบบการทำงานด้านต่างๆ ว่า มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเรื่อง NPL ซึ่งไม่มีแม้แต่รายเดียว ดังนั้น ในปี 2556 บริษัทฯ จึงตั้งเป้าจะปล่อยสินเชื่ออย่างเป็นกิจจะลักษณะในเชิงพาณิชย์ และคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายมิทซึจิกล่าว
ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในประเทศไทย และประเทศกัมพูชาเป็นองค์ประกอบอันสำคัญของบริษัทฯ ที่ต้องการเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในตลาดอาเซียน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าภายในปี 2558 ยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในตลาดอาเซียนจะอยู่ที่ 1,000,000 คัน แบ่งเป็นยอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย จำนวน 200,000 คัน ประเทศกัมพูชา จำนวน 300,000 คัน และยอดอีก 500,000 คันจากการเทกโอเวอร์ธุรกิจประเภทเดียวกันในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม