กรุ๊ปลีส เปิดแผนการขยายตัวครั้งใหญ่เข้าสู่ตลาดอาเซียน โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายปัจจุบันในไทยจาก 100,000 คัน ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดให้ได้ถึง 1,000,000 คัน ในตลาดอาเซียนภายใน 3 ปี
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL แถลงต่อผู้สื่อข่าววันนี้ (25 ต.ค.) ว่า เป้าหมายยอดขาย 1,000,000 คัน ภายใน 3 ปีที่ว่านี้ จะสามารถบรรลุได้โดยการเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็วในตลาดประเทศไทย และกัมพูชา ตลอดจนแผนการเทกโอเวอร์บริษัทไฟแนนซ์ในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งให้บริการสินเชื่อในธุรกิจเดียวกัน
เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชามีศักยภาพในการขยายตัวสูงมาก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ GL ได้จัดตั้งบริษัท GL Finance (GLF) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์แห่งแรกในประเทศกัมพูชา โดยได้ร่วมธุรกิจกับฮอนด้า ซึ่งเป็นเจ้าตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชา ในการให้บริการสินเชื่อแก่ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์กับตัวแทนจำหน่ายของฮอนด้าทั่วประเทศกัมพูช ในขณะที่ยอดให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีมากกว่า 100,000 คัน และคาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว คือ 200,000 คันภายใน 3 ปีข้างหน้า นายโคโนชิตะตั้งเป้าว่า ยอดการให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึง 300,000 คัน ภายในเวลาเดียวกัน เนื่องจากประเทศกัมพูชาเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายตัวมหาศาล
“ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กกว่าประเทศไทย และมีประชากรเพียง 15 ล้านคน แต่ประเทศกัมพูชามีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง และอัตราส่วนการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ต่อประชากรทั้งหมดยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยในปัจจุบันนี้ ชาวกัมพูชา 8 คนโดยเฉลี่ยจะเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์เพียงหนึ่งคัน และอัตราส่วนนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นชาวกัมพูชา 4 คน จะเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ 1 คัน ใน 2-3 ปีข้างหน้า และบริษัท GLF ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GL จะสามารถรับประโยชน์อย่างเต็มๆ จากตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนี้”
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท GL เป็นที่ยอมรับในธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ว่ามีขั้นตอนการอนุมัติเงินกู้ที่รวดเร็ว และมีบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพสูง และในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากบริษัทผู้ผลิตจักรยานยนต์ชั้นนำทั้งหลายเพื่อเป็นการขยายฐานยอดขายให้เติบโตเร็วยิ่งขึ้น นายโคโนชิตะ กล่าวว่า GL ยังมีแผนเข้าเทกโอเวอร์บริษัทไฟแนนซ์ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอีก 2 ตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ยอดขายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการขยายเครือข่ายธุรกิจเข้าไปในประเทศลาว และพม่าด้วย
นายโคโนชิตะ กล่าวย้ำว่า เป้าหมายโดยรวมคือ การเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าทั้งหมดให้ได้ประมาณ 1,000,000 ราย ภายในปี 2558 อันเป็นผลมาจากการเพิ่มยอดขายในประเทศไทย และกัมพูชา ตลอดจนการเทกโอเวอร์กิจการประเภทเดียวกันในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย
โดยเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้ครบ 1,000,000 รายนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการยกฐานะตัวเองขึ้นมาเป็นบริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Finance Company)
นายโคโนชิตะ กล่าวด้วยว่า ฐานลูกค้า 1,000,000 รายจะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญอันจะเอื้อประโยชน์ต่อ GL ในการให้สินเชื่อสำหรับสินค้า และบริการด้านอื่น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ และเพิ่มพูนผลกำไรให้บริษัทในระยะยาว
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL แถลงต่อผู้สื่อข่าววันนี้ (25 ต.ค.) ว่า เป้าหมายยอดขาย 1,000,000 คัน ภายใน 3 ปีที่ว่านี้ จะสามารถบรรลุได้โดยการเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็วในตลาดประเทศไทย และกัมพูชา ตลอดจนแผนการเทกโอเวอร์บริษัทไฟแนนซ์ในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งให้บริการสินเชื่อในธุรกิจเดียวกัน
เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชามีศักยภาพในการขยายตัวสูงมาก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ GL ได้จัดตั้งบริษัท GL Finance (GLF) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์แห่งแรกในประเทศกัมพูชา โดยได้ร่วมธุรกิจกับฮอนด้า ซึ่งเป็นเจ้าตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชา ในการให้บริการสินเชื่อแก่ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์กับตัวแทนจำหน่ายของฮอนด้าทั่วประเทศกัมพูช ในขณะที่ยอดให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีมากกว่า 100,000 คัน และคาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว คือ 200,000 คันภายใน 3 ปีข้างหน้า นายโคโนชิตะตั้งเป้าว่า ยอดการให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึง 300,000 คัน ภายในเวลาเดียวกัน เนื่องจากประเทศกัมพูชาเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายตัวมหาศาล
“ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กกว่าประเทศไทย และมีประชากรเพียง 15 ล้านคน แต่ประเทศกัมพูชามีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง และอัตราส่วนการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ต่อประชากรทั้งหมดยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยในปัจจุบันนี้ ชาวกัมพูชา 8 คนโดยเฉลี่ยจะเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์เพียงหนึ่งคัน และอัตราส่วนนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นชาวกัมพูชา 4 คน จะเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ 1 คัน ใน 2-3 ปีข้างหน้า และบริษัท GLF ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GL จะสามารถรับประโยชน์อย่างเต็มๆ จากตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนี้”
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท GL เป็นที่ยอมรับในธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ว่ามีขั้นตอนการอนุมัติเงินกู้ที่รวดเร็ว และมีบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพสูง และในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากบริษัทผู้ผลิตจักรยานยนต์ชั้นนำทั้งหลายเพื่อเป็นการขยายฐานยอดขายให้เติบโตเร็วยิ่งขึ้น นายโคโนชิตะ กล่าวว่า GL ยังมีแผนเข้าเทกโอเวอร์บริษัทไฟแนนซ์ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอีก 2 ตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ยอดขายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการขยายเครือข่ายธุรกิจเข้าไปในประเทศลาว และพม่าด้วย
นายโคโนชิตะ กล่าวย้ำว่า เป้าหมายโดยรวมคือ การเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าทั้งหมดให้ได้ประมาณ 1,000,000 ราย ภายในปี 2558 อันเป็นผลมาจากการเพิ่มยอดขายในประเทศไทย และกัมพูชา ตลอดจนการเทกโอเวอร์กิจการประเภทเดียวกันในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย
โดยเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้ครบ 1,000,000 รายนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการยกฐานะตัวเองขึ้นมาเป็นบริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Finance Company)
นายโคโนชิตะ กล่าวด้วยว่า ฐานลูกค้า 1,000,000 รายจะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญอันจะเอื้อประโยชน์ต่อ GL ในการให้สินเชื่อสำหรับสินค้า และบริการด้านอื่น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ และเพิ่มพูนผลกำไรให้บริษัทในระยะยาว