xs
xsm
sm
md
lg

“ขุนคลัง” มั่นใจ “โอบามา” นั่ง ปธน. สมัยที่ 2 ส่งผลดีต่อ ศก. ทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง
รองนายกฯ “กิตติรัตน์” มั่นใจ “โอบามา” ดำรงตำแหน่ง ปธน. สมัยที่ 2 เป็นผลบวก ชี้ความต่อเนื่องของนโยบาย ศก. จะส่งผลดีกับทั่วโลก แต่ต้องจับตาค่าเงินบาทที่อาจแข็งค่าขึ้น ยันไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงิน ขณะที่ภาคธุรกิจ-ลงทุน ยังกังวลความเสี่ยงภาวะ “หน้าผาทางการคลัง” หากแผนแก้ไขล้มเหลวอาจต้องมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ และมีสิทธิถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีผลการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งปรากฏว่า นายบารัค โอบามา ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เป็นสมัยที่ 2 ทำให้เห็นสัญญาณนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะมีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณรอบที่ 3 (คิวอี 3) ที่จะส่งผลให้สภาพคล่อง และผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยในสกุลเงินสหรัฐดีขึ้น ภาคธุรกิจขยายกิจการได้โดยใช้ต้นทุนไม่สูง นำไปสู่การจ้างงาน และเพิ่มกำลังซื้อในระบบ จึงเป็นทิศทางที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้สกุลเงินอื่นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แต่เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสามารถดูแลเงินบาทของไทยให้มีเสถียรภาพ และไม่ให้แข็งค่าขึ้นจนเสียเปรียบประเทศคู่ค้า

นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะไม่แทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน แต่จะช่วยเหลือ และสนับสนุนผู้ประกอบการส่งออกเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลดต้นทุนการขนส่ง และนโยบายภาษี เช่น ยกเว้นภาษีอากรให้แก่ผู้ประกอบการที่นำเข้าเครื่องจักร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่าขึ้นจนเกินไป

ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจ โดยมองว่ายังมีความเสี่ยงกับภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) พร้อมประเมินว่า ประธานาธิบดีโอบามา ต้องเร่งดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ fiscal cliff เพื่อสกัดผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า หากสหรัฐฯ ล้มเหลวในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง และต้องมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ สหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในปีหน้า

ทั้งนี้ Fiscal cliff หมายถึงภาวะที่มาตรการด้านนโยบายหลายประการของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งก็คือในช่วงรอยต่อระหว่างสิ้นปี 2555 และต้นปี 2556 โดยมาตรการที่สำคัญซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันโดยตรงนั่นก็คือ มาตรการด้านภาษี และการปรับลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น