ไอริส กรุ๊ป ทุ่มงบ 300 ล้านบาท ผุดโรงงานพรีแฟบย่านบางกรวย-ไทรน้อย กำลังผลิต 2 แสนตร.ม./ปี คาดเดินเครื่อง เม.ย. 56 หวังแก้ปัญหาสร้างบ้านไม่ทัน แถมช่วยหนุนธุรกิจโตก้าวกระโดด ล่าสุด เปิดตัว “Venice di IRIS” คอมมูนิตีมอลล์ ย่านวัชรพล มูลค่า 1,700 ล้านบาท
นายกิตติพงษ์ สุมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด กล่าวยอมรับว่า ยอดรับรู้รายได้ของบริษัทปีนี้ไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งเป้าไว้รับรู้รายได้ไว้ที่ 700 ล้านบาท เนื่องจากเกิดปัญหาจากการก่อสร้างล่าช้าของโครงการ ไอรีส แอเวนิว ซึ่งเป็นมาจากน้ำท่วม และยังมีการเคลียร์พื้นที่ล่าช้าไปอีก 4 เดือน ส่งผลให้ปีนี้ไม่มียอดโอนเลย ซึ่งโครงการดังกล่าวจะไปโอนได้ในต้นปีหน้าทั้งหมด
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป หรือ พรีแฟบ ย่านบางกรวย-ไทรน้อย บนเนื้อที่ 44 ไร่ มูลค่าการลงทุน 300 ล้านบาท ซึ่งเครื่องจักร และเทคโนเลยีการผลิตมาจากประเทศเยอรมนี ทั้งนี้โรงงานพรีแฟบดังกล่าวมีกำลังผลิตเต็ม 4 แสนตร.ม./ปี หากเปิดการผลิต 2 กะ โดยในช่วงแรกจะเดินเครื่องผลิตเพียงกะเดียว คือ 2 แสนตร.ม./ปี เพื่อรองรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัทไอริสฯ และหากกำลังการผลิตอยู่ตัวก็จะผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ทั่วไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทพร้อมจะขยายโรงงานที่ 2 หากกำลังการผลิตเต็ม เพราะปัจจุบันโรงงานใช้พื้นที่ไปเพียง 15 ไร่ จากทั้งหมด 44 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นอีกธุรกิจหนึ่งเข้ามาตอบสนองบริษัทได้ดี และเข้ามาตอบโจทย์ด้านแรงงาน และทำให้สามารถควบคุ้มในเรื่องของเวลาในการทำก่อสร้างให้ลดลงได้
“สาเหตุที่ตัดสินใจลงทุนตอนนี้เพราะงานก่อสร้างเริ่มมีปัญหาการส่งมอบ ประกอบกับต้นทุนก่อสร้างปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะมีปัญหาเพิ่มมากขึ้นในอนาคต หากลงทุนตอนนี้ก็จะทำให้เราเติบโตได้มากขึ้น ซึ่งเชื่อจะคืนทุนภายใน 5 ปี”
สำหรับแผนการลงทุนปีหน้าบริษัทเตรียมพัฒนาโครงการอย่างน้อย 2 โครงการ โดยจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ในทำเลบางใหญ่ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางไผ่ เป็นคอนโดฯ 8 ชั้น จำนวน 5 ตึก ทั้งหมด 900 ยูนิต มูลค่า 900 ล้านบาท เป็นคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขนาด 28 ตร.ม. ขณะนี้ได้ที่ดินเรียบร้อยแล้วคาดว่าจะเปิดตัวเป็นทางการได้ประมาณกลางปีหน้า และอีก 1 โครงการอยู่ระหว่างการหาทำเล ซึ่งต้องการที่ดินจำนวน 15-20 ไร่ขึ้นไป จะสามารถพัฒนาได้ 200 หลัง โดยจะพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ คาดว่าจะเป็นโซนตะวันออกบริษัทตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ในปีหน้าไว้ที่ 1,500 ล้านบาท มาจากการโอนของโครงการ ไอรีส แอเวนิว ซึ่งจะสามารถโอนได้ต้นปีหน้า และมาจากโครงการ เวนิส ดิ ไอรีส อีกบางส่วนซึ่งจะสามารถโอนโครงการได้ภายในปลายปีนี้บางส่วน
สำหรับไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวคอมมูนิตีมอลล์ และ Shop House ครั้งแรกย่านวัชรพล “เวนิส ดิ ไอรีส” บนพื้นที่ 40 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท โดยภายในโครงการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของ คอมมูนิตีมอลล์ ใช้พื้นที่ 14 ไร่ มีพื้นที่เช่า 9,000 ตร.. คิดเป็นอัตราค่าเช่า 900 บาทต่อตร.ม. มูลค่าลงทุน 340 ล้านบาท และในส่วนของ Shop House มีพื้นที่ 26 ไร่ จำนวน 263 หลัง มีทั้งหมด 9 รูปแบบ 9 สไตล์ 3 ชั้น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 3.8-7 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 158 ตร.ม. มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท จุดเด่นของโครงการนั้นพยายามจำลองเมืองเวนิส ที่ประเทศอิตาลี ให้มาอยู่ที่โครงการนี้แบบ 100%
ทั้งนี้ ปลายปี 2556 โครงการดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างไปกว่า 80% และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ 100% ไตรมาส 2 ปี 2557 พร้อมเปิดให้บริการเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของ ชอปเฮาส์ มียอดจอง 9 ยูนิต และคาดว่าคอมมูนิตีมอลล์จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 7 ปี โดยจะเน้นร้านอาหารเป็นหลัก ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดขนาด 100 ตร.ม.และเล็กสุดจะมีพื้นที่ขนาด 16 ตร.ม.ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ประมาณเดือนละ 5-6 ล้านบาท
“นอกจากนี้ แผนการลงทุนส่วนตัวปีหน้าจะร่วมหุ้นกับเพื่อนประมาณ 7 หุ้น เปิดศูนย์เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านที่ชลบุรี”