ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม ส่งสัญญาณผลงานไตรมาส 3/2555 ไม่ทำให้ผิดหวัง เหตุอุตสาหกรรมยานยนต์คึกคัก ดันออเดอร์เครื่องจักรสะพรั่ง “สุรเชษฐ์” เปิดแผนลงทุนขยายโรงงานแห่งที่ 3 หนุนผลประกอบการปีนี้โตไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เตรียมรับงานใหม่เพิ่มอีกเพียบ
นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMC เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2555 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2555 และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเตรียมรับรู้รายได้จากการส่งมอบเครื่องจักรให้แก่ลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาตามภาวะการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์
“อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังเป็นขาขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกทำให้ธุรกิจของบริษัทมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากลูกค้าหลักของบริษัทอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งด้วยจุดเด่นการมีเครื่องจักรที่ทันสมัย พร้อมรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่หลากหลาย และจากการคาดการณ์การรับรู้รายได้จากเครื่องจักรที่ส่งมอบในไตรมาสนี้จำนวนหนึ่ง จึงทำให้มั่นใจว่าปัจจัยบวกที่กล่าวมาจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/55 ของ TMC จะสามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง และเชื่อว่าจะไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวังเช่นกัน” นายสุรเชษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้เงินจากระดมทุนในครั้งนี้แล้ว ส่วนหนึ่งจะนำเงินไปสร้างโรงงานแห่งที่ 3 เนื่องจากโรงงานแห่งที่ 1 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 86.99% ซึ่งไม่เพียงพอกับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นรายได้หลักกว่า 50% ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส พื้นที่ใช้สอยเฟสละ 4,800 ตารางเมตร โดยเฟส 1 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาส 1/2556 ส่วนเฟสที่ 2 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายหลังเฟสที่ 1 แล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้ TMC สามารถวางแผนผังสายการผลิตได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และใช้เวลาในการผลิตน้อยลง
ทั้งนี้ ประเมินว่าหากโรงงานแห่งที่ 3 ดำเนินการแล้วเสร็จ จะผลักดันให้ TMC มีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่าปี 2554 ซึ่งมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เนื่องจากโดยขณะนี้ TMC มีงานในมือ (Backlog) แล้วประมาณ 422 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปี 2555 นี้ โดยจำนวนนี้ยังไม่นับงานใหม่ๆ ที่คาดว่าจะมีเข้ามาเพิ่มเติมอีก และสำหรับสัดส่วนรายได้ของ TMC ในปีนี้ จะมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ประมาณ 50% เครื่องใช้ไฟฟ้าประมาณ 15% เกษตรแปรรูปประมาณ 7% ที่เหลือเป็นอุตสาหกรรมอื่นๆ
