ปธ.เอเซีย พลัส มองแนวโน้มค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง แต่ไม่หลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แนะใช้วิกฤตเป็นโอกาส ลุยซื้อหุ้นในต่างประเทศ เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่า
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงค่าเงินบาทในปีนี้ โดยเชื่อว่าจะไม่หลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจาก มีเงินทุนไหลเข้ามาในเอเชียอย่างต่อเนื่อง
นายก้องเกียรติ ระบุว่า สถานการณ์ของเงินทุนที่ไหลเข้าในตอนนี้ยังถือว่าเป็นภาวะปกติ ไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่ก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ส่วนการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้น อย่ามองว่าเป็นอุปสรรคต่อภาคส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่ควรที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เพราะสามารถนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อหาผลตอบแทนได้
ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกก็ควรที่จะต้องปรับตัว โดยจะต้องเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า และต้องหาตลาดใหม่ๆ อยู่เสมอ ถ้าระยะยาว อเมริกา ยุโรปถ้าอ่อนแอแบบนี้อยู่ ผมว่าค่าเงินในเอเชียแข็งค่าขึ้นอีก
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น นายก้องเกียรติกล่าวว่า นักลงทุนควรจะหันไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศบ้าง เพราะมีผลตอบแทนที่สูง ส่วนการเลือกหุ้นนั้นก็ควรมองหุ้นที่เป็นแบรนด์ระดับโลก มีชื่อเสียง มีงบการเงินที่ดี และที่สำคัญนักลงทุนจะต้องมีความรู้ และมีการติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง
