“ยิ่งลักษณ์” เป็น ปธ.มอบรางวัลผู้ส่งอออก เผยอยากเห็นภาคส่งออกเข้มแข็ง รักษาตลาดเก่าเปิดตลาดใหม่ ยัน รบ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานลดต้นทุนขนส่ง ปลดล็อกอุปสรรคนำเข้า พร้อมแนะภาคเอกชนสร้างฐานผลิตประเทศเพื่อนบ้าน การค้าชายแดนรองรับประชาคมอาเซียน
วันนี้ (27 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบประกาศเกียรติคุณ และรางวัลผู้ส่งออกสินค้า และบริการดีเด่นประจำปี 2555 พร้อมยืนยันนโยบายรัฐบาลต่อการดูแลธุรกิจภาคส่งออก โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ธุรกิจส่งออกสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ นอกจากนำชื่อเสียงไปยังต่างประเทศ และยังสร้างรายได้เข้าประเทศ เพิ่มกำลังด้วยการผลิตในไทย ทำให้เกิดการจ้างงาน เกิดวงจรอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ปัญหาการส่งออกกำลังเจอภาวะที่ท้าทายของเศรษฐกิจโลก ซึ่งประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากการส่งออก ดังนั้นจึงต้องมีการปรับวิธีการทำงาน และปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของคนใดคนหนึ่ง ทุกฝ่ายต้องร่วมกันคิดให้การส่งออกขยายตัว ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะรักษาฐานตลอดเก่า และเปิดตลาดใหม่ ในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของผู้ซื้อ และเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้จะฉกฉวยโอกาสความท้าทายเป็นโอกาสของผู้ส่งออก และนักธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้หารือร่วมกับนักธุรกิจ ภาคการส่งออก โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 4 ชุด ได้แก่ 1. พิจารณาลดอุปสรรคผู้ส่งออก 2. ขับเคลื่อนตลาดยุโรป เปิดตลาดใหม่ๆ 3. สร้างฐานการผลิตประเทศเพื่อนบ้าน และการค้าชายแดนรองรับประชาคมอาเซียนให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งเสริมซึ่งกันและกัน 4. ผลักดันการส่งออกรายสินค้า เช่น เรื่องอาหาร สินค้าเกษตร อัญมณี เครื่องประดับ สิ่งทอ ซึ่งต้องไม่มองข้ามโอกาสในอนาคต และล่าสุดทางกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกันขยายการเปิดตลาด และปรับทีมการทำงานระหว่างสถานทูตและกระทรวงพาณิชย์เป็นทีมไทยแลนด์ เพื่อตอบโจทย์บริษัทผู้ส่งออก และต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรียังได้ฝากข้อคิด 2 เรื่อง คือ ขอให้ผู้ส่งออกภาคเอกชนหาทางเปิดการค้าอาเซียน โดยการหาแหล่งวัตถุดิบ ผลิตสินค้าส่งออกให้คุ้มทุนที่สุด โดยที่ภาครัฐจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อลงต้นทุนการขนส่งให้กับผู้ประกอบการ และอยากให้ผู้ส่งออกมองตลาดที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มนอกเหนือจากเรื่องของปริมาณ ตนเองในฐานะรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐพร้อมยืนยันจะร่วมกันทำงานกับภาคเอกชนสนับสนุนการส่งออก แม้จะเจอสิ่งต่างๆ ที่ท้าทาย ซึ่งรัฐบาลอยากเห็นผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งเป็นที่ยอมรับของสากล