xs
xsm
sm
md
lg

ไตรมาส 3 กรุงศรีกรุ๊ปโกยกำไรกว่า 3,760 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - กรุงศรี กรุ๊ป รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 กำไรสุทธิกว่า 3.76 พันล้าน เพิ่้มขึ้น 24.8% ระบุมาจากการขยายตัวของสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ รักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในระดับที่สูง และหนี้ด้อยคุณภาพที่ลดลง

วันนี้ (19 ต.ค.) กรุงศรี กรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ได้รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 3/2555 โดยมีกำไรสุทธิ 3.76 พันล้นบาท เพิ่มขึ้น 24.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 กรุงศรี กรุ๊ป มีกำไรสุทธิที่ 10.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554

สินเชื่อที่มีคุณภาพขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.8% คิดเป็นมูลค่า 28.0 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 หรือเพิ่มขึ้น 10.4% คิดป็นมูลค่า 71.5 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวคม 2554 โดยธุรกิจรายย่อยยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ โดยสินเชื่อรยย่อยเติบโต 17.4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้

เงินฝากเพิ่มขึ้น 49.9 พันล้านบาท คิดเป็น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ หรือเพิ่มข้น 111.8 พันล้านบาท คิดป็น 19.9% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2554 ขณะที่สัดส่วนของเงินฝากประเภทออมทรัพย์ และจ่ายคืนเมื่อทวงถามต่อสัดสวนเงินรับฝากทั้งหมด เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 51.9% ณ สิ้นเดือนกันยาน 2555 เทียบกับที่ 42.4% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554

สินเชื่อด้อยคุณภาพปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลง 1.7 พันล้านบท จากไตรมาส 2/2555 โดยปัจจุบันอยู่ที่ 2.65% ของสินเชื่อทั้งหมด ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิยังคงอยูที่ระดับ 4.35%.

มร.มาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรี กรุ๊ป กล่าวว่า ไตรมาส 3/2555 นับเป็นอีกไตรมาสหนึ่งที่ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยสินเชื่อและเงินฝากได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนถึงความสามารถของธนาคารและบริษัทในเครือในการนำเสนอนวัตกรรมทั้งด้านผลิตภัณฑ์ และบริการออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมิถุนายน และสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝาก “ออมทรัพย์ มีแต่ได้” และ “ออมทรัพย์ จัดให้” โดยสามารถระดมเงินฝากได้สูงกว่า 120 พันล้านบาท ท่ามกลางภาวะการแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดเงินฝาก

“สำหรบแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ธนาคารยังคงมีมุมมองเป็นเชิงบวกต่อทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการในการบริโภคและลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรมาส 4 ของทุกปี ถือเป็นช่วงที่สินเชื่อมักขยายตัวได้สูงที่สุด” ม.อาร์โนลด์กล่าว

ณ วันที่ 30 กันยายน 2555 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย มีสินเชื่อรวม 784 พันล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.04 ล้านล้านบาท ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 15.8% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) 11.5%

สรุปสาระสำคัญของผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) สำหรับไรมาส 3/2555
การเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ: เพิ่มขึ้น 10.4% คิดเป็นมูลค่า 71.5 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2554 หรือเพิ่มขึ้น 14.6% คิดเป็นมูลค่า 97.0 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2554 สินเชื่อด้อยคุณภาพ: ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 22.5 พันล้านบาท จาก 29.5 พันล้านบาท สิ้นเดือนธันวาคม 2554 หรือลดลงถึง 23.9% โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็นสัดส่วน 2.65% ของสินเชื่อรวมซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2536
· กำไรสุทธิ: 3.76 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.8% จากไตรมาส 3/2554
· ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ระดับ 4.35% ในช่วงไตรมาส 3/2555
· อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 50.1% จาก 52.3% ณ สิ้นไตรมาส 3/2554
· สัดส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ: เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 141% จาก 129% ณ สิ้นไตรมาส 2/2555
· รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ: เพิ่มขึ้น 21.8% จากไตรมาส 3/2554
· การเติบโตของเงินฝาก: เพิ่มขึ้นอยางสูงเป็นจำนวน 111.8 พันล้านบาท หรือ 19.9% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดืนธันวาคม 2554
· สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์ และจายคืนเมื่อทวงถามต่สัดส่วนเงินรับฝากท้งหมดปรับเพิ่มขึนมาอยู่ที่ 51.9% จาก 42.4% เดือนธันวาคม 2554
· อัตราส่วนงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: ยังคงรักษาความแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 15.8%
กำลังโหลดความคิดเห็น