xs
xsm
sm
md
lg

พีดีเฮ้าส์จุดพลุตลาดรับสร้างบ้าน ผนึก SCB อัดดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พีดีเฮ้าส์ จุดกระแสรับสร้างบ้านครึ่งปีหลัง จับมือธนาคารไทยพาณิชย์ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน แถมฟรีค่าประเมิน-ตรวจงวดงาน ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.55 หลังพบยอดขอสินเชื่อรับสร้างบ้านวูบเหลือแค่ 10% ของพอร์ต ขณะที่ยอดขายโตสวนทาง 20% คาดสาเหตุจากลูกค้าสร้างบ้านหรูนิยมจ่ายเงินสด

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารสิทธิแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 9 เดือน พร้อมฟรีค่าประเมิน และค่าตรวจงาน มูลค่ารวมประมาณ 13,500 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30 กันยายน 2555 นี้

ทั้งนี้ เชื่อว่าแคมเปญดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาใช้บริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ในกลุ่มแบรนด์เอคิวโฮม ที่ถือเป็นตลาดใหญ่ของที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมา มีลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และในต่างจังหวัด แสดงความสนใจจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านในระดับราคา 1.8-2.5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่า จะมียอดขายจากแคมเปญนี้กว่า 100 ล้านบาท

“ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในวงการรับสร้างบ้าน เนื่องจากที่ผ่านมา สถาบันการเงินส่วนใหญ่มักไม่ให้ความสำคัญกับตลาดนี้มากนัก เพราะมีข้อยุ่งยากและความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ เช่น การตรวจงวดงาน ไม่มั่นใจในตัวผู้รับเหมาที่อาจทิ้งงานได้ ที่ดินที่จะนำมาปลูกสร้างบ้านมีโฉนดจริงหรือไม่ อีกทั้งการประเมินราคาที่ดินโดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่เจ้าหน้าที่มักเกรงว่าราคาจะไม่เหมาะสม ทำให้ปล่อยสินเชื่อในวงเงินที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก รวมถึงไม่ให้ความสำคัญมากนัก เนื่องจากต้องใช้บุคลากรมาก และต้องดูแลลูกค้าเป็นพิเศษ”

การส่งเสริมให้สถาบันการเงินหันมาให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าสร้างบ้านเองจะช่วยให้ตลาดรับสร้างบ้านตัวขึ้นได้อย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งหากมองในแง่ของความเสี่ยงแล้ว รับสร้างบ้านถือว่ามีความเสี่ยงน้อยเพราะลูกค้าจะต้องนำทั้งที่ดิน และตัวบ้านค้ำประกันสินเชื่อ แต่สถาบันการเงินให้วงเงินเฉพาะตัวบ้านเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า หากลูกค้ารับสร้างบ้านจากผู้รับเหมารายย่อยอาจมีความเสี่ยงหากผู้รับเหมาทิ้งงานได้ ดังนั้น ลูกค้าจึงควรสร้างบ้านจากผู้ประกอบการที่มีความเชื่อถือ และมีประวัติที่ดี

จากสถิติการขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านของลูกค้าพีดี เฮ้าส์ ทั่วประเทศในช่วงครึ่งปีแรก 2555 ลดลงเหลือเพียง 10% จากที่ปี 2554 ลูกค้าใช้บริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินในการจ้างสร้างบ้านถึง 30% ในขณะที่ยอดขายของบริษัทกลับโตสวนทางถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยครึ่งปีสามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 600 ล้านบาท

“การที่ยอดขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านของบริษัทปรับลดลงถึง 20% ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากค่าเฉลี่ยของราคาบ้านของลูกค้าพีดี เฮ้าส์ สูงขึ้นเป็น 5 ล้านบาท โดยในต่างจังหวัดลูกค้าสร้างบ้านราคาเฉลี่ย 4-5 ล้านบาท ภาคใต้สร้างบ้านราคาเฉลี่ยสูงสุด 5 ล้านบาท รองลงมา เป็นภาคอีสาน4.5-5 ล้านบาท ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา พบว่า ลูกค้าที่สร้างบ้านราคาตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป เกือบทั้งหมดจะใช้เงินสดในการจ้างสร้างบ้าน ส่วนบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท จะใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน” นายสิทธิพรกล่าว

แบงก์รับสินเชื่อสร้างบ้านต้องดูแลพิเศษ

ด้านนายวิชิต พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดรับสร้างบ้านเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับการให้สินเชื่อบ้านของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพราะลูกค้าที่ใช้บริการสั่งสร้างบ้านมักเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพดี รายได้สูง ขนาดของวงเงินกู้ก็จะสูงเช่นเดียวกัน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจึงได้ให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้

ทั้งนี้ ขนาดของตลาดนี้ยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดบ้านพร้อมอยู่ อีกทั้งต้องใช้เวลา และกระบวนการพิเศษในการดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากต้องติดตามการก่อสร้างทุกขั้นตอน และจะใช้เวลา ปัจจุบัน ธนาคารฯ ได้จัดทีมงานพิเศษเพื่อดูแลลูกค้า และบริษัทรับเหมาก่อสร้างบ้านนี้โดยเฉพาะเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดนี้

อย่างไรก็ดี ตลาดของการรับสร้างบ้านจะค่อยๆ เติบโต เพราะจะมีลูกค้ากลุ่มพิเศษที่จะเลือกใช้บริการในลักษณะนี้ ในขณะที่ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 50 จะใช้เงินสดในการสร้างบ้านอยู่เอง โดยไม่ได้ใช้สินเชื่อในการสร้างบ้านของตน ดังนั้น แนวโน้มของตลาดสินเชื่อรับสร้างบ้านก็จะไม่หวือหวามากนัก กอปรกับราคาของการรับเหมาก่อสร้างจะมีแนวโน้มสูงขึ้น และตลาดแรงงานที่ใช้ในการก่อสร้างก็มีน้อยลง

ดังนั้น น่าจะทำให้ราคาของการก่อสร้างบ้านมีราคาสูงขึ้น เพราะจะต้องสร้างบ้านทีละหลัง ซึ่งต่างจากการสร้างบ้านของเจ้าของโครงการรายใหญ่ ซื่งจะสร้างบ้านในปริมาณมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม สินเชื่อรับสร้างบ้านก็ยังคงอยู่ เพราะนอกจากลูกค้าระดับบนที่ต้องการความแตกต่าง และความเป็นตัวตนของตนเองอยู่แล้ว ก็ยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่มีทีดินอยู่ในมือซึ่งต้องการสร้างบ้านของตนเองในพื้นที่ดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น