xs
xsm
sm
md
lg

รถไฟฟ้าใต้ดิน “เอ็มอาร์ที” คาดปีนี้โกยรายได้เพิ่ม 15% เผย 3 ปัจจัยหลักหนุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รถไฟฟ้าใต้ดิน “เอ็มอาร์ที” คาดปีนี้โกยรายได้เพิ่ม 15% หลังประชาชนหันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยมีปัจจัยหลักทั้งจากน้ำมันแพง และจำนวนคอนโดฯ ที่เปิดเพิ่มขึ้น แถมยังมีลูกค้ากลุ่มใหม่จากปัญหาน้ำท่วม เล็งซื้อขบวนรถเพิ่มรองรับความต้องการที่สูงขึ้น ส่วนการปรับขึ้นราคา 1 บาท เชื่อไม่มีผลกระทบ

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจในปีนี้ โดยคาดว่า บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2554 ซึ่งมีรายได้ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือเอ็มอาร์ทีเพิ่มขึ้น 15% เนื่องจากมีศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม และที่พักอาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟใต้ดินเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายปีก่อนช่วยให้บริษัทมีผู้โดยสารกลุ่มใหม่เกิดขึ้น เพราะช่วงนั้นประชาชนส่วนหนึ่งต้องใช้บริการรถไฟฟ้าในการเดินทาง เมื่อพบว่ามีความสะดวกในการใช้บริกา รและสามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนในการเดินทางได้ ประชาชนกลุ่มนี้จึงเปลี่ยนมาใช้บริการรถไฟฟ้า

นายชัยวัฒน์กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 2.5-2.6 แสนเที่ยว เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 1.8 แสนเที่ยว

ส่วนการสั่งซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มนั้น จะดำเนินการพร้อมการสั่งซื้อรถไฟฟ้าในเส้นทางสายสีม่วง ซึ่งบริษัทเป็นผู้ชนะการประกวดราคาการให้บริการเดินรถ คาดว่าจะลงนามสัญญากับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ได้ในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ เอ็มอาร์ทีจะเร่งเพิ่มปริมาณผู้โดยสารนอกช่วงเวลาเร่งด่วนเพื่อเพิ่มรายได้ เพราะปัจจุบัน มีผู้โดยสารในช่วงเวลาเร่งด่วน 5 ชั่วโมงต่อวัน แต่มีปริมาณผู้โดยสาร 50% เท่ากับนอกช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งมี 13 ชั่วโมงต่อวัน รวมทั้งจะเปิดให้พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่เหลืออยู่ 7 สถานี โดยจะเริ่มจากสถานีพระราม 9 เป็นอันดับแรก

สำหรับการใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2555 หลังจากชะลอการปรับมาเป็นเวลา 3 เดือน จากวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 โดยเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารมากนัก เพราะปรับเพิ่มเพียง 1 บาท เป็น 16-40 บาท จากเดิม 15-40 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น