พีทีที โกลบอล เคมิคอล ปรับสูตรซื้อขายวัตถุดิบบปิโตรเคมีจากก๊าซธรรมชาติ กับ ปตท. บนพื้นฐานแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน มีผลตั้งแต่ 1 สิงหาคม 55 เป็นต้นไป
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTGC แจ้งว่า ตามที่้คณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2555 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2555 ได้มีมติอนุมัติให้ปรับสูตรราคาซื้อขายวัตถุดิบปิโตรเคมีจากก๊าซธรรมชาติ ระหว่างบริษัทฯ และบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT โดยการปรับสูตรราคาซื้อขายดังกล่าวยังคงอยู่บนหลักการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป
โดยการปรับสูตรราคาซื้อขายครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงในสัญญา เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับ ต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตวัตถุดิบได้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สูตรราคาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่สะท้อนหลักการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน โดยผลกระทบของการใช้สูตรราคาซื้อขายใหม่ที่ระดับราคาน้ำมันดิบปัจจุบัน จะมีผลให้ราคาวัตถุดิบปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8
ทั้งนี้ มีสมมติฐานในการกำหนดสูตรราคาใหม่จะอยู่บนช่วงระดับน้ำมันดิบ 70-130 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอ้างอิงเงินลงทุน และค่าใช้จ่ายการผลิตและจำหน่ายตามมาตรฐานสากลเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในระยะยาว บริษัทฯจะดำเนินการร่วมกับ ปตท. เพื่อพิจารณาการสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจปลายน้ำ และการจัดหาก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสำหรับโครงการขยายการลงทุน (Debottlenecking) ของบริษัทฯ ในฐานะที่บริษัทฯเป็นแกนหลักในธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. ต่อไป
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTGC แจ้งว่า ตามที่้คณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2555 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2555 ได้มีมติอนุมัติให้ปรับสูตรราคาซื้อขายวัตถุดิบปิโตรเคมีจากก๊าซธรรมชาติ ระหว่างบริษัทฯ และบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT โดยการปรับสูตรราคาซื้อขายดังกล่าวยังคงอยู่บนหลักการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป
โดยการปรับสูตรราคาซื้อขายครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงในสัญญา เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับ ต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตวัตถุดิบได้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สูตรราคาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่สะท้อนหลักการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน โดยผลกระทบของการใช้สูตรราคาซื้อขายใหม่ที่ระดับราคาน้ำมันดิบปัจจุบัน จะมีผลให้ราคาวัตถุดิบปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8
ทั้งนี้ มีสมมติฐานในการกำหนดสูตรราคาใหม่จะอยู่บนช่วงระดับน้ำมันดิบ 70-130 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอ้างอิงเงินลงทุน และค่าใช้จ่ายการผลิตและจำหน่ายตามมาตรฐานสากลเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในระยะยาว บริษัทฯจะดำเนินการร่วมกับ ปตท. เพื่อพิจารณาการสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจปลายน้ำ และการจัดหาก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสำหรับโครงการขยายการลงทุน (Debottlenecking) ของบริษัทฯ ในฐานะที่บริษัทฯเป็นแกนหลักในธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. ต่อไป