xs
xsm
sm
md
lg

ใบโพธิ์กำไร Q2 กำไรโต 23.9% โกยรายได้ ดบ.-ค่าฟีอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไทยพาณิชย์แจ้งกำไรไตรมาส 2 จำนวน 1 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 23.9% ระบุ จากรายได้ดอกเบี้ย-มิใช่ดอกเบี้ยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อขยายตัวได้ 20.2% และ NIM ที่ระดับ 3.22%

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ประกาศผลกำไรสุทธิไตรมาส 2/2555 (งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบ) ที่ 10,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.9% จากกำไรสุทธิที่ 8,132 พันล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2554 ปัจจัยหลักขับเคลื่อนกำไรสุทธิที่ดีมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อันเป็นผลจากการขยายตัวที่ดีด้านสินเชื่อ รายได้ที่แข็งแกร่งของธุรกิจประกัน และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมบริการ แม้ว่าคุณภาพของสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับต่ำสุด นับตั้งแต่ปี 2540 แต่เพื่อความระมัดระวัง ในไตรมาสนี้ ธนาคารจึงได้ตั้งสำรองเพิ่มเติมจากเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ผลประกอบการของธนาคารตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจอย่างครบวงจรของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งสอดรับกับความสามารถในการฟื้นตัวที่รวดเร็วของเศรษฐกิจไทย หลังจากประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และแม้ว่า ยังมีความไม่แน่นอนอยู่เป็นอันมากจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่ แต่ความต้องการด้านสินเชื่อ โดยเฉพาะจากลูกค้ารายย่อยยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งธนาคารได้มีการขยายสินเชื่อตามการเติบโตของตลาด แต่ด้วยความรอบคอบ และคงไว้ซึ่งมาตรฐานการบริหารความเสี่ยงที่เข้มแข็ง

ทั้งนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้น 20.9% จากไตรมาส 2/2554 มาอยู่ที่ 15 พันล้านบาทในไตรมาสที่ 2/2555 ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่สูงสุดของธนาคาร อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่ออย่างมากถึง 20.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และการเพิ่มขึ้นอย่างมากของผลตอบแทนด้านสินเชื่อ และจากการลงทุนของธนาคาร การขยายตัวของสินเชื่อที่สูงกว่าตลาดมาจาก 3 ส่วน ได้แก่ สินเชื่อ SME สินเชื่อเคหะ และสินเชื่อรถยนต์ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.22% สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา

ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 19.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการเติบโตที่แข็งแรงต่อเนื่องของรายได้จากธุรกิจประกัน (เพิ่มขึ้น 42.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว) กำไรจากธุรกรรมเพื่อค้า และปริวรรต และรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการที่สูงอย่างต่อเนื่อง

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แม้มีปัจจัยลบของสภาวะเศรษฐกิจโลก และมีผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในปีที่ผ่านมาอยู่บ้าง ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2555 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 2.25% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2540 (ลดลงมาจากระดับ 2.69% ณ สิ้นไตรมาส 2/2554 และ 2.39% ณ สิ้นไตรมาส 1/2555) อย่างไรก็ตาม จากสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก และประเมินค่อนข้างยาก ธนาคารได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และทำการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอีก 1 พันล้านบาทเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 140.2% จากเดิม 114.5% ณ สิ้นไตรมาส 2/2554 และ 127.1% ณ สิ้นปี 2554
กำลังโหลดความคิดเห็น