ไทยพาณิชย์ปล่อยกู้เอสเอ็มอี 4 เดือนแรกเติบโตถึง 20% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 2 หมื่นล้าน เผยเป็นลูกค้ารีไฟแนนซ์ถึง 60% ระบุเน้นเจาะกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก-กลุ่มพาณิชยกรรม ที่ยังขยายฐานได้อีกมาก
นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส รองผู้จัดการ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) เปิดเผยว่า ธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถปล่อยกู้สินเชื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 6 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ธนาคารสามารถปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปแล้ว 2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 20%
ทั้งนี้ สัดส่วนสินเชื่อที่ขยายตัวนั้น โดยส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวจากการรีไฟแนนซ์ถึง 60% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธนาคารสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ และมีการดูแลลูกค้าได้ดี หรือลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะได้รับการดูแลจากที่เดิมไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ในช่วงต่อไป ธนาคารจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจพาณิชยกรรมมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เติบโตได้ดี และธนาคารก็ยังมีลูกค้าในกลุ่มนี้ไม่มากนัก
นอกจากนี้ ธนาคารมีแผนจะเน้นกลุ่มลูกค้าเอสอ็มอีรายเล็ก ที่มียอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท และปล่อยสินเชื่อประมาณ 20 ล้านบาทต่อราย โดยคาดว่าในช่วงที่หลือของปีสินเชื่อยังสามารถขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการผลิต หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปีก่อน ซึ่งทำให้ต้องมีการซื้อ หรือซ่อมแซมเครื่องจักรใหม่
“ปัจจัยเสี่ยงในขณะนี้ยังคงเป็นเรื่องของผลกระทบค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่ทำให้ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีมีต้นทุนเพิ่มขึ้น และต้องปรับตัวเพื่อให้รับสถานการณ์ได้ ซึ่งเท่าที่สอบถามลูกค้าบางรายมีความต้องการเปลี่ยนจากการใช้กำลังคนมาเป็นการใช้เครื่องจักรทดแทน เพื่อลดต้นทุนการผลิตลง ส่วนปัญหาเศรษฐกิจยุโรปที่ยังมีความไม่แน่นอน ก็ต้องติดตามต่อไป เพราะอาจส่งผลต่อการส่งออกชะลอตัวลง”
สำหรับค่าเงินบาทที่ผันผวนอยู่ขณะนี้ ธนาคารได้แนะนำให้ลูกค้าที่ต้องเสี่ยงกับภาวะดังกล่าวให้รู้จักการป้องกันและบริหารความเสี่ยง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดมหกรรมสินค้าคุณภาพมาตรฐานการส่งออก SCB-FTI Factory Outlet ครั้งที่ 5 โดยนำสินค้ากว่า 240 แบรนด์ โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมโอกาสธุรกิจให้ผู้ประกอบการ SMEs จากอุตสาหกรรมต่างๆ และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มกว่า 25 ล้านบาท