2 แบงก์ใหญ่"กสิกรฯ-ไทยพาณิชย์"แจ้งกำไรไตรมาส 1 รุ่งตามคาด กำไรโต 47% และ 29.4%ตามลำดับ ชี้จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวได้ดี
นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารและบริษัทย่อยประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2555 กำไรสุทธิ จำนวน 8,988 ล้านบาท เติบโต 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 6,114 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้จำนวน 12,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จำนวน 4,576 ล้านบาท หรือ 56.48%
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2555 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้ในไตรมาสนี้จำนวน 12,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จำนวน 4,576 ล้านบาท หรือ 56.48% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นจำนวน 2,091 ล้านบาท หรือ 26.95% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น 12.61% และรายได้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขยายขอบเขตการให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรแก่ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.58% แม้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในไตรมาส 1 ปี 2555
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมี กำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 3,395 ล้านบาท หรือ 36.57% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 1,973 ล้านบาท หรือ 15.24% ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin :NIM) ในไตรมาสนี้ ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 1,595 ล้านบาท หรือ 19.32% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น 12.15% และรายได้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิ รวมทั้งการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าว
ขณะที่เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL Gross) อยู่ที่ระดับ 2.35% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ระดับ 2.45%
**ใบโพธิ์ชี้รับอานิสงส์ศก.ฟื้น-สินเชื่อโต**
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2555 (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ที่ 1.03 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (ไม่รวมกำไรพิเศษครั้งเดียวจากเงินลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในไตรมาส 1 ปี 2554) ทั้งนี้ ปัจจัยหลักขับเคลื่อนผลกำไรสุทธิที่ดีมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อที่ขยายตัวในอัตราสูง รายได้จากการบริหารการเงิน และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจประกัน ในขณะเดียวกันคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่ามีผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงไตรมาสก่อนหน้า
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ผลประกอบการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของธนาคาร ซึ่งสอดรับกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 29.0% จากไตรมาส 1 ปี 2554 มาอยู่ที่ระดับ 14.2 พันล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงถึง 19.6% โดยการเติบโตของสินเชื่อกระจายในทุกกลุ่มธุรกิจหลักทั้งสาม ได้แก่ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 10.5% สินเชื่อธุรกิจ SME เพิ่มขึ้น 34.1% และสินเชื่อลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้น 23.9% นอกจากนี้ ธนาคารสามารถดำเนินตามยุทธศาสตร์ทางธุรกิจในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มธุรกิจ SME เช่นเดียวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรถยนต์ของกลุ่มลูกค้าบุคคลซึ่งขยายตัว 18.2% และ 42.1% ตามลำดับ
ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 12.4% จากไตรมาส 1 ปี 2554 (ไม่รวมกำไรพิเศษครั้งเดียวจากเงินลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในไตรมาส 1/2554) จากการเติบโตต่อเนื่องของรายได้สุทธิจากธุรกิจประกันภัย (เพิ่มขึ้น 69.5%) และรายได้จากการบริหารการเงิน (ธุรกรรมเพื่อค้าและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ) (เพิ่มขึ้น 33.6%)
นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารและบริษัทย่อยประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2555 กำไรสุทธิ จำนวน 8,988 ล้านบาท เติบโต 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 6,114 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้จำนวน 12,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จำนวน 4,576 ล้านบาท หรือ 56.48%
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2555 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้ในไตรมาสนี้จำนวน 12,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จำนวน 4,576 ล้านบาท หรือ 56.48% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นจำนวน 2,091 ล้านบาท หรือ 26.95% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น 12.61% และรายได้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขยายขอบเขตการให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรแก่ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.58% แม้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในไตรมาส 1 ปี 2555
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมี กำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 3,395 ล้านบาท หรือ 36.57% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 1,973 ล้านบาท หรือ 15.24% ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin :NIM) ในไตรมาสนี้ ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 1,595 ล้านบาท หรือ 19.32% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น 12.15% และรายได้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิ รวมทั้งการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าว
ขณะที่เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL Gross) อยู่ที่ระดับ 2.35% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ระดับ 2.45%
**ใบโพธิ์ชี้รับอานิสงส์ศก.ฟื้น-สินเชื่อโต**
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2555 (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ที่ 1.03 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (ไม่รวมกำไรพิเศษครั้งเดียวจากเงินลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในไตรมาส 1 ปี 2554) ทั้งนี้ ปัจจัยหลักขับเคลื่อนผลกำไรสุทธิที่ดีมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อที่ขยายตัวในอัตราสูง รายได้จากการบริหารการเงิน และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจประกัน ในขณะเดียวกันคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่ามีผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงไตรมาสก่อนหน้า
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ผลประกอบการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของธนาคาร ซึ่งสอดรับกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 29.0% จากไตรมาส 1 ปี 2554 มาอยู่ที่ระดับ 14.2 พันล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงถึง 19.6% โดยการเติบโตของสินเชื่อกระจายในทุกกลุ่มธุรกิจหลักทั้งสาม ได้แก่ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 10.5% สินเชื่อธุรกิจ SME เพิ่มขึ้น 34.1% และสินเชื่อลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้น 23.9% นอกจากนี้ ธนาคารสามารถดำเนินตามยุทธศาสตร์ทางธุรกิจในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มธุรกิจ SME เช่นเดียวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรถยนต์ของกลุ่มลูกค้าบุคคลซึ่งขยายตัว 18.2% และ 42.1% ตามลำดับ
ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 12.4% จากไตรมาส 1 ปี 2554 (ไม่รวมกำไรพิเศษครั้งเดียวจากเงินลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในไตรมาส 1/2554) จากการเติบโตต่อเนื่องของรายได้สุทธิจากธุรกิจประกันภัย (เพิ่มขึ้น 69.5%) และรายได้จากการบริหารการเงิน (ธุรกรรมเพื่อค้าและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ) (เพิ่มขึ้น 33.6%)