xs
xsm
sm
md
lg

ศศินทร์ชี้ปัญหา ศก. และการเมืองฉุดการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศศินทร์เผยสิ่งแวดล้อมทั้งด้านเศรษฐกิจ และการเมือง คือ อุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ชี้ผู้นำของแต่ละประเทศต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านการลงทุน ย้ำทุกชาติยังมีความแตกต่างด้านกฎหมาย และข้อบังคับ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
 

ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคเอเชียว่า สิ่งแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อชาติต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะในเอเชียเท่านั้น แต่ทั่วโลกจะต้องเร่งพัฒนา และแก้ไขจุดอ่อนดังกล่าว เพื่อรับมือกับปัญหาและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการลงทุนของต่างชาติ แม้ว่านักลงทุนทั่วโลกเบนเข็มเข้าสู่ตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชีย แต่ปัญหาความไม่แน่นอน และความวุ่นวายทางการเมืองที่รุนแรงในบางประเทศ ทั้งปัญหาการสู้รบ และการจลาจล ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมของภูมิภาค และเป็นสาเหตุหลักของความแตกต่าง ทำให้เกิดความได้เปรียบ และเสียเปรียบทางด้านเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในเอเชีย ยกตัวอย่างเช่น ประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่จะมีการรวมตัวกันอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งยังมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมภายใน ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ และการลงทุนระหว่างประเทศ เชื่อว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ดังนั้น จะต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดเสรี

อย่างไรก็ตาม ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกที่สืบเนื่องมาจากภาคการเงิน และการธนาคารของประเทศในภูมิภาคตะวันตกอ่อนแอลง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ในเอเชียเข้าไปมีบทบาทในการปล่อยกู้เพื่อลงทุนสำหรับภาคธุรกิจต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ และการเงินอย่างจีน และญี่ปุ่น ที่ธนาคารพาณิชย์เริ่มเข้าไปมีอิทธิพลกับนักลงทุน และภาคธุรกิจต่างๆ แทนสถาบันการเงินจากตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์ดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า เมื่อประเทศมหาอำนาจมีความอ่อนแอทางด้านเศรษฐกิจ ก็เป็นโอกาสที่ดีของตลาดทุนในเอเชียจะค่อยๆ ซึมเข้าไปแทนที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“จากการแสดงปาถกฐาของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในงานเสวนาเรื่อง “วิกฤตทางการเงินโลก และอนาคตของธนาคารโลกและเอเชีย” ในงาน Asia in Transfomation, Sasin Bangkok Forum ที่จัดขึ้นไม่เมื่อนานมานี้ ซึ่งได้ระบุว่า หากรัฐบาลจะนำเงินคงคลังไปหาผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบต่างๆ ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีการแก้กฎหมายให้สามารถนำเงินไปฝากกับธนาคารพาณิชย์เพื่อได้ดอกเบี้ยจากการลงทุน หรือแม้กระทั่งการสนับสนุนให้นักลงทุนไทยนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อทำให้เกิดเสถียรภาพทางการเงิน” ดร.กฤษติกา กล่าวและให้ความเห็นว่า ไม่ใช่เฉพาะจีน และญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ได้ขยายอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย แม้กระทั่งตลาดทุนของไทยเองก็เริ่มแสวงหาโอกาสจากสถานการณ์ของโลก ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ดร.กฤษติกา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า แม้ภูมิภาคเอเชียจะมีความโดดเด่นขึ้นในอีกไม่ช้านี้ แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้นำของแต่ละประเทศจะต้องเผชิญ และร่วมมือกันแก้ไขก็ คือ ความไม่มั่นคงทางด้านการเมือง และปัญหาความแตกต่างด้านโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศของตนเอง เนื่องจากภาวะการค้า และการลงทุนที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลก หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกันได้ จะส่งผลกระทบในวงกว้าง และลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียได้ ดังนั้น การลงทุนจะต้องพิจารณาจากปัจจัยภายนอกประเทศด้วยว่า ประเทศคู่ค้ามีสิ่งแวดล้อมทางการตลาดอย่างไร หรือมีความเสี่ยงจากปัจจัยรอบข้างมากน้อยแค่ไหน
กำลังโหลดความคิดเห็น