วายแอลจี คาดตลาดทองคำมีแรงซื้อเข้ามา ส่งผลให้ราคาปรับขึ้นในกรอบจำกัด หลังฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารสเปนอีก 18 แห่ง เป็นแรงฉุดการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่สำคัญต่อการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้น ประเมินราคาเคลื่อนไหวระยะสั้นลักษณะ Sideway เพื่อรอดูความชัดเจนของทางออกปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน และผลประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ แนะนักลงทุนสามารถซื้อ และขายทำกำไรในกรอบราคา ไม่ผ่านแนวต้าน 1,621 หรือ 1,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และบริเวณแนวรับ 1,593 หรือ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้รักษาระดับไว้ได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวของราคา
กระแสคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสเปน และอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มียอดขาดดุลงบประมาณราว 1.246 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม หลังจากที่มียอดเกินดุลในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เป็นแรงหนุนส่งให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้มีแรงซื้อเข้ามาเพิ่ม หลังจาก นายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก เน้นย้ำให้เฟดดำเนินมาตรการเชิงรุกด้านนโนบายการเงินมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พร้อมกับเรียกร้องให้เฟดระบุอย่างชัดเจนว่า จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าอัตราว่างงานของสหรัฐฯ จะต่ำกว่า 7% หรือหากเงินเฟ้อสูงกว่า 3% จากเป้าที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%
แต่อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารสเปนอีก 18 แห่ง ซึ่งสถานการณ์ของทางฝั่งยุโรปยังไม่สู้ดีนัก ได้เป็นแรงฉุดการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่สำคัญต่อการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้น วายแอลจีประเมินว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในระยะสั้นลักษณะ Sideway เพื่อรอดูความชัดเจนของทางออกปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC Meeting)
**กลยุทธ์การลงทุน** นั้น “วายแอลจี” แนะนำว่า ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวลักษณะ Sideway โดยนักลงทุนสามารถซื้อ และขายทำกำไรในกรอบราคา สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้น และไม่ผ่านแนวต้าน 1,621 หรือ 1,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคามีการย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,593 หรือ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรักษาระดับไว้ได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวของราคา ซึ่งวายแอลจี มีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงปรับฐานของราคาแนะนำให้เล่นในกรอบ ให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน
** ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,593 (23,810 บาท) 1,585 (23,690 บาท) 1,573 (23,510 บาท) แนวต้าน 1,621 (24,230 บาท) 1,630 (24,360 บาท) 1,641 (24,530 บาท) ** GOLD FUTURES (GFM12) ** แนวรับ 1,593 (23,940 บาท) 1,585 (23,820 บาท) 1,573 (23,640 บาท) และแนวต้าน 1,621 (24,360 บาท) 1,630 (24,490 บาท) 1,641 (24,660 บาท) ** SILVER FUTURES (SVM12) **แนวรับ 28.45 (893 บาท) 28.15 (884 บาท) 27.65 (868 บาท) แนวต้าน 29.50 (927 บาท) 29.87 (938 บาท) 30.20 (948 บาท)
กระแสคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสเปน และอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มียอดขาดดุลงบประมาณราว 1.246 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม หลังจากที่มียอดเกินดุลในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เป็นแรงหนุนส่งให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้มีแรงซื้อเข้ามาเพิ่ม หลังจาก นายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก เน้นย้ำให้เฟดดำเนินมาตรการเชิงรุกด้านนโนบายการเงินมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พร้อมกับเรียกร้องให้เฟดระบุอย่างชัดเจนว่า จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าอัตราว่างงานของสหรัฐฯ จะต่ำกว่า 7% หรือหากเงินเฟ้อสูงกว่า 3% จากเป้าที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%
แต่อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารสเปนอีก 18 แห่ง ซึ่งสถานการณ์ของทางฝั่งยุโรปยังไม่สู้ดีนัก ได้เป็นแรงฉุดการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่สำคัญต่อการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้น วายแอลจีประเมินว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในระยะสั้นลักษณะ Sideway เพื่อรอดูความชัดเจนของทางออกปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC Meeting)
**กลยุทธ์การลงทุน** นั้น “วายแอลจี” แนะนำว่า ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวลักษณะ Sideway โดยนักลงทุนสามารถซื้อ และขายทำกำไรในกรอบราคา สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้น และไม่ผ่านแนวต้าน 1,621 หรือ 1,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคามีการย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,593 หรือ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรักษาระดับไว้ได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวของราคา ซึ่งวายแอลจี มีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงปรับฐานของราคาแนะนำให้เล่นในกรอบ ให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน
** ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,593 (23,810 บาท) 1,585 (23,690 บาท) 1,573 (23,510 บาท) แนวต้าน 1,621 (24,230 บาท) 1,630 (24,360 บาท) 1,641 (24,530 บาท) ** GOLD FUTURES (GFM12) ** แนวรับ 1,593 (23,940 บาท) 1,585 (23,820 บาท) 1,573 (23,640 บาท) และแนวต้าน 1,621 (24,360 บาท) 1,630 (24,490 บาท) 1,641 (24,660 บาท) ** SILVER FUTURES (SVM12) **แนวรับ 28.45 (893 บาท) 28.15 (884 บาท) 27.65 (868 บาท) แนวต้าน 29.50 (927 บาท) 29.87 (938 บาท) 30.20 (948 บาท)
