“วายแอลจี”คาดราคาทองคำจะขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญในบริเวณถัดไปที่ระดับ 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่การขึ้นที่รวดเร็วของราคานช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยคาดการณ์แนวรับไว้ที่ 1,680 - 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์
วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานราคาทองงคำวันที่ 27 มี.ค. ว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,686.34 - 1,693.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ12 อยู่ที่ 24,810 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 380 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,430 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ12 อยู่ที่ 1,021 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 34 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 987 บาท
สำหรับแนวโน้มวันที่ 28มี.ค. ประเมินว่า หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ โดยเบอร์นันเก้ระบุว่า "เรายังไม่สามารถแน่ใจได้ว่า การปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานในระยะนี้จะยั่งยืน" โดยแสดงความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับจำนวนคนที่ตกงานนานกว่า 6 เดือน หรือการว่างงานระยะยาวที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่การจ้างงานและชั่วโมงทำงานยังนับว่าต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตอยู่มาก ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทันทีเนื่องจากได้จุดความหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3(QE3)
สอดคล้องกับความเห็นของประธานบริหารของพิมโค ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลกที่กล่าวว่า เฟดอาจส่งสัญญาณการใช้มาตรการ QE3 ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนหน้า อย่างไรก็ตามวายแอลจีอยากให้ข้อสังเกตุว่า แม้ถ้อยแถลงของประธานเฟดจะทำให้นักลงทุนทั่วโลกต่างคาดการณ์ถึงมาตการ QE3 แต่ในความเป็นจริงนักลงทุนต้องไม่ลืมว่า การกล่าวถึงมาตรการดังกล่าวเป็นเรื่องที่เฟดค่อนข้างระมัดระวัง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำได้ผ่านแนวต้านสำคัญในบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปแล้ว
ทำให้คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญในบริเวณถัดไปที่ระดับ 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้การขึ้นที่รวดเร็วของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยคาดการณ์แนวรับไว้ที่ 1,680 - 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำยังสามารถที่จะขยับตัวขึ้นต่อไปได้แต่ในระยะสั้นอาจเห็นการย่อตัวลงได้บ้าง ซึ่งหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,680 หรือ 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,705 หรือ 1,715 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง นักลงทุนควรรอจังหวะการย่อตัวแล้วเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมและสำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือต้องไม่ลืมถึงความเสี่ยงในการลงทุนที่ต้นเองสามารถรับได้
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,680 (24,400บาท) 1,670 (24,250บาท) 1,660 (24,110บาท) แนวต้าน 1,705 (24,760บาท) 1,715 (24,910บาท) 1,727 (25,090บาท)
GOLD FUTURES (GFJ12) แนวรับ 1,680 (24,640บาท) 1,670 (24,500บาท) 1,660 (24,350บาท) แนวต้าน 1,705 (25,010บาท) 1,715 (25,150บาท) 1,727 (25,330บาท)
SILVER FUTURES (SVJ12) แนวรับ 32.35 (997บาท) 32.00 (987บาท) 31.70 (978บาท) แนวต้าน 33.60 (1,036บาท) 34.30 (1,057บาท) 34.89 (1,075บาท)
วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานราคาทองงคำวันที่ 27 มี.ค. ว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,686.34 - 1,693.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ12 อยู่ที่ 24,810 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 380 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,430 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ12 อยู่ที่ 1,021 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 34 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 987 บาท
สำหรับแนวโน้มวันที่ 28มี.ค. ประเมินว่า หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ โดยเบอร์นันเก้ระบุว่า "เรายังไม่สามารถแน่ใจได้ว่า การปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานในระยะนี้จะยั่งยืน" โดยแสดงความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับจำนวนคนที่ตกงานนานกว่า 6 เดือน หรือการว่างงานระยะยาวที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่การจ้างงานและชั่วโมงทำงานยังนับว่าต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตอยู่มาก ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทันทีเนื่องจากได้จุดความหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3(QE3)
สอดคล้องกับความเห็นของประธานบริหารของพิมโค ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลกที่กล่าวว่า เฟดอาจส่งสัญญาณการใช้มาตรการ QE3 ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนหน้า อย่างไรก็ตามวายแอลจีอยากให้ข้อสังเกตุว่า แม้ถ้อยแถลงของประธานเฟดจะทำให้นักลงทุนทั่วโลกต่างคาดการณ์ถึงมาตการ QE3 แต่ในความเป็นจริงนักลงทุนต้องไม่ลืมว่า การกล่าวถึงมาตรการดังกล่าวเป็นเรื่องที่เฟดค่อนข้างระมัดระวัง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำได้ผ่านแนวต้านสำคัญในบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปแล้ว
ทำให้คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญในบริเวณถัดไปที่ระดับ 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้การขึ้นที่รวดเร็วของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยคาดการณ์แนวรับไว้ที่ 1,680 - 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำยังสามารถที่จะขยับตัวขึ้นต่อไปได้แต่ในระยะสั้นอาจเห็นการย่อตัวลงได้บ้าง ซึ่งหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,680 หรือ 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,705 หรือ 1,715 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง นักลงทุนควรรอจังหวะการย่อตัวแล้วเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมและสำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือต้องไม่ลืมถึงความเสี่ยงในการลงทุนที่ต้นเองสามารถรับได้
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,680 (24,400บาท) 1,670 (24,250บาท) 1,660 (24,110บาท) แนวต้าน 1,705 (24,760บาท) 1,715 (24,910บาท) 1,727 (25,090บาท)
GOLD FUTURES (GFJ12) แนวรับ 1,680 (24,640บาท) 1,670 (24,500บาท) 1,660 (24,350บาท) แนวต้าน 1,705 (25,010บาท) 1,715 (25,150บาท) 1,727 (25,330บาท)
SILVER FUTURES (SVJ12) แนวรับ 32.35 (997บาท) 32.00 (987บาท) 31.70 (978บาท) แนวต้าน 33.60 (1,036บาท) 34.30 (1,057บาท) 34.89 (1,075บาท)
