“วายแอลจี” ชี้ราคาน้ำมันที่เริ่มลดลงจากเปิดเผยตัวเลขการสตอกน้ำมันในครั้งที่ผ่านมาของสหรัฐฯ ที่ได้ปรับเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความเห็นของประธานเฟดที่กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงต่อเนื่อง เชื่อแม้ราคาทองคำจะมีการอ่อนตัวบ้างจากแรงขายทำกำไร แต่ท้ายสุดแล้วก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้ มองกรอบการเคลื่อนไหวจะมีแนวรับอยู่ระหว่าง 1,650-1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 24,160-23,940 บาท
“วายแอลจี” ระบุสภาวะตลาดวันที่ 30 มีนาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,659.74-1,666.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ12 อยู่ที่ 24,470 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,400 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ12 อยู่ที่ 1,005 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 18 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 987 บาท
สำหรับแนวโน้มวันที่ 2 เมษายน 2555 ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการลดลงของราคาทองคำในช่วงนี้ ก็คือ ราคาน้ำมันที่เริ่มลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คลังยุทธภัณฑ์สำรอง (SPR) ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวเลขการสต๊อกน้ำมันในครั้งที่ผ่านมา ที่ได้ปรับเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนสามารถคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวของน้ำมัน นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส กำลังหารือกับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ในเรื่องการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉินด้วย
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็ยังคงส่งผลต่อเนื่องกับราคาทองคำเช่นกัน เนื่องจากตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ในขณะที่ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) กลับออกมาให้มุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัย ยังไม่สามารถฟื้นตัวอย่างยั่งยืนได้ แม้ว่าตัวเลขเกี่ยวกับอัตราการว่างงานที่ได้ประกาศมาก่อนหน้านี้จะดีขึ้นก็ตาม และยังคงมีความจำเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แม้ราคาทองคำจะมีการอ่อนตัวบ้างจากแรงขายทำกำไร แต่ท้ายสุดแล้วก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้ เนื่องจากตลาดโดยรวมยังอยู่ในสภาวะขายมากเกินไป ทำให้ราคาทองคำมีแรงดีดตัวที่มากขึ้น เหมาะแก่การเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้น โดยทางวายแอลจียังคงเน้นให้นักลงทุนรอเข้าซื้อบริเวณแนวรับสำคัญ และทำกำไรเมื่อมีการดีดตัวของราคาขึ้นมา ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวจะมีแนวรับอยู่ระหว่าง 1,650-1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 24,160-23,940 บาท และแนวต้านที่ 1,685-1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 24,670-24,850 บาท
ทองคำแท่ง (96.50%)แนวรับ 1,650 (24,160 บาท) 1,644 (24,070 บาท) 1,635 (23,940 บาท) แนวต้าน 1,685 (24,670 บาท) 1,690 (24,750 บาท) 1,697 (24,850 บาท)
GOLD FUTURES (GFJ12)แนวรับ 1,650 (24,290 บาท) 1,644 (24,200 บาท) 1,635 (24,070 บาท) แนวต้าน 1,685 (24,800 บาท) 1,690 (24,880 บาท) 1,697 (24,980 บาท)
SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 31.35 (967 บาท) 31.00 (956 บาท) 30.50 (940 บาท) แนวต้าน 33.33 (1,028 บาท) 33.70 (1,039 บาท) 34.30 (1,058 บาท)
