ระนอง - ทหารกองกำลังเทพสตรีจับเรือประมงลอบระเบิดปลา 2 ลำ พร้อมลูกเรือชาวพม่า 16 คน
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (27 มี.ค.) พ.อ.อุทิศ อันตนานนท์ รอง ผบ.ฉก.ร.25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งว่ามีเรือประมงต้องสงสัยจำนวน 2 ลำ ทอดสมอลอยลำอยู่บริเวณแหลมสิงห์ เกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง จึงสั่งการให้ พ.ต.วิรัตน์ สังข์เพ็ชร หัวหน้าฝ่ายยุทธการ ฉก.ร.25 และทหารชุดปฏิบัติการทางน้ำกระทิง (ชป.กระทิง) นำเรือเร็วออกไปลาดตระเวนตรวจสอบ จนพบเรือต้องสงสัยจึงส่งสัญญาณเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบปรากฏว่า เรือทั้งสองลำไม่มีชื่อ แต่ชักธงชาติไทย โดยเรือลำที่ 1 มีคนต่างด้าวสัญชาติพม่า เป็นชาย 7 คน และของกลางประกอบยุทธภัณฑ์ทางทหาร ดังนี้ ฝักแคเวลา จำนวน 1 ขด เชื้อปะทุ จำนวน 44 ดอก ดินระเบิดไดนาไมค์ จำนวน 5 แท่ง ปุ๋ยยูเรียผสมแล้วจำนวน 12 แกลลอน น้ำมันดีเซล จำนวน 18 แกลลอน เครื่องผลิตออกซิเจน 1 เครื่อง ถังออกซิเจน 1 ถัง พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำลึก
เรือลำที่ 2 พบชายชาวพม่า จำนวน 9 คน และของกลางประกอบยุทธภัณฑ์ทางทหาร ดังนี้ ฝักแคเวลา จำนวน 1 ขด เชื้อปะทุ จำนวน 13 ดอก ดินระเบิดไดนาไมค์ จำนวน 9 แท่ง ปุ๋ยยูเรียผสมแล้วจำนวน 6 แกลลอน น้ำมันดีเซล จำนวน 4 แกลลอน แกลลอนเปล่าจำนวนหนึ่ง เครื่องผลิตออกซิเจน 1 เครื่อง ถังออกซิเจน 2 ถังพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำลึก ปุ๋ยยูเรียยังไม่ผสมครึ่งกระสอบปุ๋ย เครื่องปั่นไฟ จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 13,380 บาท และโทรศัพท์ จำนวน 8 เครื่อง
จากการสอบสวนทราบว่า เรือทั้งสองลำเตรียมนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าไประเบิดปลาในเขตน่านน้ำพม่า โดยเอาปุ๋ยยูเรียพร้อมดินระเบิดไดนาไมค์บรรจุใส่แกลลอนพร้อมเชื้อปะทุแล้วต่อสายจุดชนวนปิดฝาแกลลอนโดยใช้ขี้ชันพอกทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าในแกลลอนแล้วผูกเชือกถ่วงด้วยก้อนหินหย่อนลงทะเลเพื่อระเบิดปลาตามแหล่งโขดหินใต้น้ำที่มีปลาชุกชุม เมื่อระเบิดแล้วลูกเรือจะดำน้ำลงไปจับปลาที่ถูกแรงระเบิดอัดจนท้องแตกตายขึ้นมาเพื่อนำกลับไปขาย โดยมีนายทุนคนไทยในจังหวัดระนองอยู่เบื้องหลัง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.ปากน้ำระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (27 มี.ค.) พ.อ.อุทิศ อันตนานนท์ รอง ผบ.ฉก.ร.25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งว่ามีเรือประมงต้องสงสัยจำนวน 2 ลำ ทอดสมอลอยลำอยู่บริเวณแหลมสิงห์ เกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง จึงสั่งการให้ พ.ต.วิรัตน์ สังข์เพ็ชร หัวหน้าฝ่ายยุทธการ ฉก.ร.25 และทหารชุดปฏิบัติการทางน้ำกระทิง (ชป.กระทิง) นำเรือเร็วออกไปลาดตระเวนตรวจสอบ จนพบเรือต้องสงสัยจึงส่งสัญญาณเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบปรากฏว่า เรือทั้งสองลำไม่มีชื่อ แต่ชักธงชาติไทย โดยเรือลำที่ 1 มีคนต่างด้าวสัญชาติพม่า เป็นชาย 7 คน และของกลางประกอบยุทธภัณฑ์ทางทหาร ดังนี้ ฝักแคเวลา จำนวน 1 ขด เชื้อปะทุ จำนวน 44 ดอก ดินระเบิดไดนาไมค์ จำนวน 5 แท่ง ปุ๋ยยูเรียผสมแล้วจำนวน 12 แกลลอน น้ำมันดีเซล จำนวน 18 แกลลอน เครื่องผลิตออกซิเจน 1 เครื่อง ถังออกซิเจน 1 ถัง พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำลึก
เรือลำที่ 2 พบชายชาวพม่า จำนวน 9 คน และของกลางประกอบยุทธภัณฑ์ทางทหาร ดังนี้ ฝักแคเวลา จำนวน 1 ขด เชื้อปะทุ จำนวน 13 ดอก ดินระเบิดไดนาไมค์ จำนวน 9 แท่ง ปุ๋ยยูเรียผสมแล้วจำนวน 6 แกลลอน น้ำมันดีเซล จำนวน 4 แกลลอน แกลลอนเปล่าจำนวนหนึ่ง เครื่องผลิตออกซิเจน 1 เครื่อง ถังออกซิเจน 2 ถังพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำลึก ปุ๋ยยูเรียยังไม่ผสมครึ่งกระสอบปุ๋ย เครื่องปั่นไฟ จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 13,380 บาท และโทรศัพท์ จำนวน 8 เครื่อง
จากการสอบสวนทราบว่า เรือทั้งสองลำเตรียมนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าไประเบิดปลาในเขตน่านน้ำพม่า โดยเอาปุ๋ยยูเรียพร้อมดินระเบิดไดนาไมค์บรรจุใส่แกลลอนพร้อมเชื้อปะทุแล้วต่อสายจุดชนวนปิดฝาแกลลอนโดยใช้ขี้ชันพอกทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าในแกลลอนแล้วผูกเชือกถ่วงด้วยก้อนหินหย่อนลงทะเลเพื่อระเบิดปลาตามแหล่งโขดหินใต้น้ำที่มีปลาชุกชุม เมื่อระเบิดแล้วลูกเรือจะดำน้ำลงไปจับปลาที่ถูกแรงระเบิดอัดจนท้องแตกตายขึ้นมาเพื่อนำกลับไปขาย โดยมีนายทุนคนไทยในจังหวัดระนองอยู่เบื้องหลัง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.ปากน้ำระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป