xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มราคาทองคำพรุ่งนี้ (5 เม.ย.) คาดกรอบลงทุน 1,620-1,650 เหรียญ/ออนซ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โกลเบล็ก” ระบุราคาทองคำวานนี้ (4 เม.ย.) ราคาทองคำในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศมีการปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงการณ์ว่าเฟดยังคงไม่มีความจำเป็นที่จะดำเนินนโยบาย QE3 เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลให้เกิดแรงขายในตลาดทองคำจากการทำกำไรของนักลงทุน

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ คาดกรอบการลงทุน 1,620-1,650เหรียญ/ออนซ์ โดยแนะนำนักลงทุนรอซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงบริเวณ1,620 เหรียญเพื่อรอขายบริเวณ 1,645-1,655 เหรียญ/ออนซ์ และตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวลงไปต่ำกว่า 1,610 เหรียญ/ออนซ์ แนวโน้มราคาทองคำช่วงนี้ยังคงมีโอกาสปรับตัวลงต่อ ดังนั้น หากราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นแนะนำนักลงทุนขายทองคำเพื่อทำกำไรออกไปก่อน

ด้าน “วายแอลจี” ระบุสภาวะตลาดวันที่ 4 เมษายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,632.30-1,647.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ12 อยู่ที่ 24,200 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 440 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,640 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ12 อยู่ที่ 1,018 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,018 บาท

แนวโน้มวันที่ 5 เมษายน 2555 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 13 มีนาคม โดยถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาทองคำถูกเทขายอย่างรุนแรง กดดันราคาทองคำให้ร่วงลงอย่างหนักกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากการไม่ใช้มาตรการดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และจะเป็นแรงกดดันให้นักลงทุนออกมาเทขายทองคำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถติดตามการประชุมครั้งหน้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 24-25 เมษายนนี้

ขณะที่รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ความต้องการทองคำจากอินเดียยังคงอยู่ในภาวะซบเซา เนื่องจากการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าทองของทางการอินเดียทำให้เกิดความกังวลว่าความต้องการทองคำของอินเดียจะทรุดตัวลง ยิ่งกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงอีกทาง แม้จะมีปัจจัยเกี่ยวกับความขัดแย้งของอิหร่านกับชาติตะวันตกที่คอยหนุนราคาทองคำอยู่ก็ตาม

เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ประเมินว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้ในลักษณะ Technical Rebound โดยการดีดตัวประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,655-1,666 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดการย่อตัวเพื่อลงมาสร้างฐานของราคาอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ เบื้องต้นหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้มีโอกาสเห็นการดีดตัวในลักษณะ Technical Rebound แต่หากราคาหลุดโซน 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,612 หรือ 1,587 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,655 หรือ 1,666 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,620 (23,740 บาท) 1,612 (23,620บาท) 1,587 (23,260 บาท) แนวต้าน 1,655 (24,260 บาท) 1,666 (24,420 บาท) 1,673 (24,520 บาท)
GOLD FUTURES (GFJ12) แนวรับ 1,620 (24,010 บาท) 1,612 (23,890 บาท) 1,587 (23,530 บาท) แนวต้าน 1,655 (24,530 บาท) 1,666 (24,690 บาท) 1,673 (24,790 บาท)
SILVER FUTURES (SVJ12) แนวรับ 31.80 (988 บาท) 31.20 (969 บาท) 30.97 (962 บาท) แนวต้าน 33.00 (1,025 บาท) 33.60 (1,043 บาท) 34.10 (1,059 บาท)
กำลังโหลดความคิดเห็น