"วายแอลจี"ระบุสภาวะตลาดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,722.44 - 1,713.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 25,200 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 130 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,330 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 1,040 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่ม 12 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,028 บาท
แนวโน้มวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึง อิตาลี สเปน และโปรตุเกส พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบต่อ อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาพในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลและยังคงกดดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตามการปรับตัวลดลงของราคาทองคำเริ่มชะลอตัวลงเมื่อรัฐสภากรีซอนุมัติแผนรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่สำคัญ โดยล่าสุดนั้น นายออลลี เรห์น กรรมาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป(อียู) ได้ออกมาขานรับรัฐสภากรีซที่มีมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบที่สองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร แต่อย่างไรก็ตามการที่กรีซจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินนั้น ยังต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้องอีกสองข้อที่เหลือคือ กรีซจำเป็นจะต้องลดงบประมาณอีก 325 ล้านยูโร และผู้นำกรีซจะต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการปฏิรูปตามแผนที่ได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งวายแอลจีมองว่าประเด็นปัญหาของกรีซจะยังมีผลกระทบต่อราคาทองคำ
สำหรับมุมมองราคาทองคำนั้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down โดยหากราคายืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,696 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะเห็นการดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,727 หรือ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงต่อ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงปรับฐานของราคา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,696 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ แต่จะขึ้นไปได้มากเพียงใด ขึ้นอยู่กับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นสำคัญ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,727 หรือ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,685 หรือ 1,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้สามารถทะยอยสะสมบ้างส่วน หรือ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงน้อยยังคงแนะนำลงทุนระยะสั้นโดยให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,696 (24,750บาท) 1,685 (24,590บาท) 1,663 (24,270บาท)แนวต้าน 1,727 (25,210บาท) 1,735 (25,320บาท) 1,747 (25,500บาท)
GOLD FUTURES (GFG12) แนวรับ 1,696 (24,940บาท) 1,685 (24,780บาท) 1,663 (24,460บาท)แนวต้าน 1,727 (25,400บาท) 1,735 (25,520บาท) 1,747 (25,700บาท)
SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 32.80 (1,022บาท) 32.30 (1,006บาท) 31.67 (987บาท)แนวต้าน 34.00 (1,059บาท) 34.50 (1,074บาท) 35.30 (1,099บาท
ด้าน"โกลเบล็ก"ระบุราคาทองคำวานนี้ (14 ก.พ.55) ราคาทองคำในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศปรับตัวลดลงประมาณ $7.04/Oz หรือ 0.41% มาอยู่ที่ $1,715.20/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศอยู่ที่ $1,713.34-1,722.44/Oz) โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศแถบยูโรโซนลง และฟิทช์ เรทติงส์ยังประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่งของสเปน
นอกจากนี้นักลงทุนยังคงวิตกต่อความช่วยเหลือกรีซ ขณะที่ยุโรปให้เวลากรีซจนถึงวันพรุ่งนี้ในการโน้มน้าวกลุ่มผู้ปล่อยกู้ระหว่างประเทศให้เชื่อว่า กรีซจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือ ซึ่งรัฐสภาได้ลงมติเห็นชอบแล้ว ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้ก่อเหตุวางเพลิงกลางกรุงเอเธนส์
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ $1,703-1,741/Oz เข้าซื้อเมื่อราคายืนเหนือ $1,700 เหรียญได้ จะทำให้ราคามีโอกาสปรับขึ้นไปใกล้บริเวณ $1,790-1,800 เหรียญ แต่หากยืนเหนือ $1,700 เหรียญไม่ไหว ระมัดระวังการปรับลงของราคาต่อเนื่องถึงบริเวณ $1,670
ขณะที่เคจีไอระบุภาวะตลาดทองคำโลก: ราคาทองคำตลาด COMEX เดือน เม.ย. ปรับตัวลง 7.20 ดอลลาร์ปิดที่ 1,717.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ในขณะที่ในตลาดสป๊อทเริ่มมีช่วงรีบาวด์มาปิดทรงตัว ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดทองคำนอกจากข่าวเรื่องการปรับลดอันดับเครดิต/เตือน ของ Moody’s หลายประเทศในยุโรปที่เมื่อวานนี้ โดยทางเอเชียรับรู้ไปก่อนแล้ว ข่าวเรื่องการยกเลิกประชุมของ รมว. คลังยูโรโซน เรื่องกรีซที่จะมีการประชุมในวันนี้เปลี่ยนเป็นการประชุมทางโทรศัพท์แทน โดยจะมีการประชุม รมว. คลังยุโรปครั้งถัดไปในวันจันทร์ที่ 20 ก.พ. เป็นปัจจัยลบเชิงจิตวิทยาต่อสินทรัพย์ทางการเงินโลกให้ปรับตัวลง
อย่างไรก็ตามในช่วงเย็นๆของฝั่งตะวันตกมีข่าวบวกออกมาว่า ทางการกรีซว่าจะส่งหนังสือแสดงความจำนงในการลดค่าใช้จ่ายลงอีก 325 ล้านยูโรในวันพุธนี้ ที่เป็น 1 ใน 3 เงื่อนไขที่กรีซจะต้องดำเนินการในการขอเงินกู้ ซึ่งในเบื้องต้นส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่มีช่วงรีบาวด์หลังจากที่ปรับตัวลงแรง ภาพโดยรวมสินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่มีช่วงปรับตัวลงในช่วงแรกก่อนมีแรงซื้อเข้ามาทำให้โดยรวมระดับราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้ามากนัก ในขณะที่ปัจจัยระยะกลางของทองคำที่น่าจะส่งผลบวกต่อทองคำได้แก่ ประเด็นเรื่องการเพิ่มสภาพคล่องไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม LTRO ของ ECB ในวันที่ 29 ก.พ. นี้ หรือโอกาสในการทำ QE3 ของเฟดในไตรมาส 3
ค่าเงินบาทกลับมาอ่อน...หนุนราคาทองคำในประเทศ: ส่งผลให้ทองคำในประเทศปรับตัวดีกว่าทองคำโลก โดยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นผลมาจากทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และผลทางจิตวิทยาต่อข่าวเรื่องเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ 3 จุด
มูลค่าทองคำในกองทุน SPDR: ปรับตัวลง 0.39 ตัน มาที่ระดับ 1,278.26 ตันต่อหน่วย
ความเห็นเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำโลก ระยะสั้นยังเป็นการแกว่งตัวออกด้านข้าง แต่การปรับตัวลงยังไม่มากไม่ถึงแนวรับหลักที่ 1,700-1,695 เหรียญ ส่วนแนวต้านด้านบนอยู่ที่บริเวณ 1,740 เหรียญ ทิศทางระยะสั้นหากกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,740 เหรียญได้จะพ้นการแกว่งตัวออกด้านข้าง และกลับมาปรับตัวขึ้น
แนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์: ระยะสั้นคาดว่าเป็นการแกว่งตัวออกด้านข้าง และมีโอกาสที่จะเริ่มกลับมาปรับตัวขึ้นได้ หลังจากที่มีการพักตัวระดับหนึ่งและเครื่องมือทางเทคนิคส่งสัญญาณบวก ซึ่งจะยืนยันโดยทองคำโลกที่สามารถผ่าน 1,740 เหรียญได้
แนวรับ: 25,200/25,000 แนวต้าน: 25,300/25,700
กลยุทธ์การลงทุนคำ แนะนำการลงทุน เปิด Long เนื่องจากคาดว่ามีโอกาสกลับมาเป็นการแกว่งตัวขึ้น
แนวโน้มวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึง อิตาลี สเปน และโปรตุเกส พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบต่อ อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาพในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลและยังคงกดดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตามการปรับตัวลดลงของราคาทองคำเริ่มชะลอตัวลงเมื่อรัฐสภากรีซอนุมัติแผนรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่สำคัญ โดยล่าสุดนั้น นายออลลี เรห์น กรรมาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป(อียู) ได้ออกมาขานรับรัฐสภากรีซที่มีมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบที่สองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร แต่อย่างไรก็ตามการที่กรีซจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินนั้น ยังต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้องอีกสองข้อที่เหลือคือ กรีซจำเป็นจะต้องลดงบประมาณอีก 325 ล้านยูโร และผู้นำกรีซจะต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการปฏิรูปตามแผนที่ได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งวายแอลจีมองว่าประเด็นปัญหาของกรีซจะยังมีผลกระทบต่อราคาทองคำ
สำหรับมุมมองราคาทองคำนั้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down โดยหากราคายืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,696 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะเห็นการดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,727 หรือ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงต่อ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงปรับฐานของราคา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,696 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ แต่จะขึ้นไปได้มากเพียงใด ขึ้นอยู่กับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นสำคัญ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,727 หรือ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,685 หรือ 1,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้สามารถทะยอยสะสมบ้างส่วน หรือ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงน้อยยังคงแนะนำลงทุนระยะสั้นโดยให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,696 (24,750บาท) 1,685 (24,590บาท) 1,663 (24,270บาท)แนวต้าน 1,727 (25,210บาท) 1,735 (25,320บาท) 1,747 (25,500บาท)
GOLD FUTURES (GFG12) แนวรับ 1,696 (24,940บาท) 1,685 (24,780บาท) 1,663 (24,460บาท)แนวต้าน 1,727 (25,400บาท) 1,735 (25,520บาท) 1,747 (25,700บาท)
SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 32.80 (1,022บาท) 32.30 (1,006บาท) 31.67 (987บาท)แนวต้าน 34.00 (1,059บาท) 34.50 (1,074บาท) 35.30 (1,099บาท
ด้าน"โกลเบล็ก"ระบุราคาทองคำวานนี้ (14 ก.พ.55) ราคาทองคำในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศปรับตัวลดลงประมาณ $7.04/Oz หรือ 0.41% มาอยู่ที่ $1,715.20/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศอยู่ที่ $1,713.34-1,722.44/Oz) โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศแถบยูโรโซนลง และฟิทช์ เรทติงส์ยังประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่งของสเปน
นอกจากนี้นักลงทุนยังคงวิตกต่อความช่วยเหลือกรีซ ขณะที่ยุโรปให้เวลากรีซจนถึงวันพรุ่งนี้ในการโน้มน้าวกลุ่มผู้ปล่อยกู้ระหว่างประเทศให้เชื่อว่า กรีซจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือ ซึ่งรัฐสภาได้ลงมติเห็นชอบแล้ว ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้ก่อเหตุวางเพลิงกลางกรุงเอเธนส์
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ $1,703-1,741/Oz เข้าซื้อเมื่อราคายืนเหนือ $1,700 เหรียญได้ จะทำให้ราคามีโอกาสปรับขึ้นไปใกล้บริเวณ $1,790-1,800 เหรียญ แต่หากยืนเหนือ $1,700 เหรียญไม่ไหว ระมัดระวังการปรับลงของราคาต่อเนื่องถึงบริเวณ $1,670
ขณะที่เคจีไอระบุภาวะตลาดทองคำโลก: ราคาทองคำตลาด COMEX เดือน เม.ย. ปรับตัวลง 7.20 ดอลลาร์ปิดที่ 1,717.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ในขณะที่ในตลาดสป๊อทเริ่มมีช่วงรีบาวด์มาปิดทรงตัว ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดทองคำนอกจากข่าวเรื่องการปรับลดอันดับเครดิต/เตือน ของ Moody’s หลายประเทศในยุโรปที่เมื่อวานนี้ โดยทางเอเชียรับรู้ไปก่อนแล้ว ข่าวเรื่องการยกเลิกประชุมของ รมว. คลังยูโรโซน เรื่องกรีซที่จะมีการประชุมในวันนี้เปลี่ยนเป็นการประชุมทางโทรศัพท์แทน โดยจะมีการประชุม รมว. คลังยุโรปครั้งถัดไปในวันจันทร์ที่ 20 ก.พ. เป็นปัจจัยลบเชิงจิตวิทยาต่อสินทรัพย์ทางการเงินโลกให้ปรับตัวลง
อย่างไรก็ตามในช่วงเย็นๆของฝั่งตะวันตกมีข่าวบวกออกมาว่า ทางการกรีซว่าจะส่งหนังสือแสดงความจำนงในการลดค่าใช้จ่ายลงอีก 325 ล้านยูโรในวันพุธนี้ ที่เป็น 1 ใน 3 เงื่อนไขที่กรีซจะต้องดำเนินการในการขอเงินกู้ ซึ่งในเบื้องต้นส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่มีช่วงรีบาวด์หลังจากที่ปรับตัวลงแรง ภาพโดยรวมสินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่มีช่วงปรับตัวลงในช่วงแรกก่อนมีแรงซื้อเข้ามาทำให้โดยรวมระดับราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้ามากนัก ในขณะที่ปัจจัยระยะกลางของทองคำที่น่าจะส่งผลบวกต่อทองคำได้แก่ ประเด็นเรื่องการเพิ่มสภาพคล่องไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม LTRO ของ ECB ในวันที่ 29 ก.พ. นี้ หรือโอกาสในการทำ QE3 ของเฟดในไตรมาส 3
ค่าเงินบาทกลับมาอ่อน...หนุนราคาทองคำในประเทศ: ส่งผลให้ทองคำในประเทศปรับตัวดีกว่าทองคำโลก โดยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นผลมาจากทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และผลทางจิตวิทยาต่อข่าวเรื่องเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ 3 จุด
มูลค่าทองคำในกองทุน SPDR: ปรับตัวลง 0.39 ตัน มาที่ระดับ 1,278.26 ตันต่อหน่วย
ความเห็นเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำโลก ระยะสั้นยังเป็นการแกว่งตัวออกด้านข้าง แต่การปรับตัวลงยังไม่มากไม่ถึงแนวรับหลักที่ 1,700-1,695 เหรียญ ส่วนแนวต้านด้านบนอยู่ที่บริเวณ 1,740 เหรียญ ทิศทางระยะสั้นหากกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,740 เหรียญได้จะพ้นการแกว่งตัวออกด้านข้าง และกลับมาปรับตัวขึ้น
แนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์: ระยะสั้นคาดว่าเป็นการแกว่งตัวออกด้านข้าง และมีโอกาสที่จะเริ่มกลับมาปรับตัวขึ้นได้ หลังจากที่มีการพักตัวระดับหนึ่งและเครื่องมือทางเทคนิคส่งสัญญาณบวก ซึ่งจะยืนยันโดยทองคำโลกที่สามารถผ่าน 1,740 เหรียญได้
แนวรับ: 25,200/25,000 แนวต้าน: 25,300/25,700
กลยุทธ์การลงทุนคำ แนะนำการลงทุน เปิด Long เนื่องจากคาดว่ามีโอกาสกลับมาเป็นการแกว่งตัวขึ้น