"วายแอลจี"ระบุสภาวะตลาดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,719.39 - 1,732.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 25,390 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้น 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,270 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 1,028 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 15 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,043 บาท
สำหรับแนวโน้มวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหัฐฯ(เฟด) ที่ออกมาย้ำถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ายังคงฟื้นตัวในอัตราที่ช้าลงและตลาดที่อยู่อาศัยยังคงซบเซา โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่เฟดจะต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ถ้อยแถลงดังกล่าวชะลอการอ่อนตัวลงของทองคำและเป็นแรงหนุนให้มีการกลับเข้ามาเก็งกำไรในทองคำอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะของกรีซนั้นยังเป็นปัญหาหลัก โดยรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ชะลอการอนุมัติแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่แก่กรีซ เนื่องจากรอดูว่ากรีซจะสามารถลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้หรือไม่ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ไปว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่กดดันราคาทองคำ แม้ว่ารัฐสภากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ครอบคลุมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำ และการลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือรอบที่สองจากไอเอ็มเอฟและอียู แต่ก็ยังเกิดการประท้วงจากประชาชนจำนวนมากได้ออกมาต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด การชุมนุมประท้วงได้บานปลายกลายเป็นการจลาจลจนถึงขั้นมีการวางเพลิงสถานที่ต่างๆในกลางกรุงเอเธนส์ ซึ่งปัญหาของกรีซนั้นยังคงกดดันราคาทองคำ
เบื้องต้น"วายแอลจี"แนะนำให้รอจัวหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้รอขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้านต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน "วายแอลจี" มีมุมมองว่า ราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,704 หรือ 1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,710 (24,920บาท) 1,704 (24,830บาท) 1,693 (24,670บาท) แนวต้าน 1,747 (25,460บาท) 1,752 (25,530บาท) 1,764 (25,700บาท) GOLD FUTURES (GFG12) แนวรับ 1,710 (25,060บาท) 1,704 (24,970บาท) 1,693 (24,810บาท) แนวต้าน 1,747 (25,600บาท) 1,752 (25,670บาท) 1,764 (25,850บาท) SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 33.10 (1,000บาท) 32.80 (991บาท) 32.30 (975บาท) แนวต้าน 34.50 (1,043บาท) 34.85 (1,054บาท) 35.23 (1,065บาท)
ด้าน"โกลเบล็ก"ระบุราคาทองคำวานนี้ (13 ก.พ.55) ปรับขึ้นไปบริเวณ $1,732 เหรียญ โดยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดไว้บริเวณ $1,703 เหรียญ การดีดกลับของราคาทองคำตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ของไทยเกิดขึ้นหลังรัฐสภากรีซมีมติเห็นชอบต่อมาตรการรัดเข็มขัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือเงินจากทั้งอียูและไอเอ็มเอฟเป็นจำนวนราว 1.3 แสนล้านยูโร แต่ประชาชนในประเทศยังก่อการประท้วงมาตรการดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,703-1,751ดอลลาร์/ออนซ์ เข้าซื้อเมื่อราคายืนเหนือ $1,700 เหรียญได้ จะทำให้ราคามีโอกาสปรับขึ้นไปใกล้บริเวณ $1,790-1,800 เหรียญ แต่หากยืนเหนือ $1,700 เหรียญไม่ไหว ระมัดระวังการปรับลงของราคาต่อเนื่องถึงบริเวณ $1,670
ด้าน"ออสสิริส" มองว่าราคาทองคำสปอตในสัปดาห์นี้น่าจะสามารถกลับมาปรับตัวบวกต่อตามแนวโน้มเดิมได้หลังจากที่ปัญหาเรื่องกรีซเริ่มกลับมาคลี่คลายลง โดยในระยะกลางยังให้น้ำหนักกับนโยบายการเงินที่ผ่นอคลายในสหรัฐฯเป็นปัจจัยหลักในการพยุงและผลักดันราคาทองคำโดยอาศัยแรงซื้อจากนักเก็งกำไรให้ปรับตัวบวกขึ้นไปได้ในที่สุด
ทั้งนี้ "ออสสิริส" มองว่าความกังวลในเรื่องนโยบายรัดเข็มขัดของกรีซที่ยืดเยื้อและปั่นป่วนส่งผลสร้างความผันผวนต่อสินทรัพย์ต่างๆในสัปดาห์ที่แล้วด้วยอุปสรรคต่างๆนานานั้น น่าจะเริ่มคลี่คลายลงและหมดความกังวลระยะสั้นไปได้ในช่วงต้นสัปดาห์นี้หลังจากที่กรีซมีการโหวตผ่านนโยบายรัดเข็มขัดต่างๆจน Troika อนุมัติเงินกู้ก้อนต่อไปโดยไม่มีเงื่อนไขยุ่งยากในที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นนักลงทุนก็อาจกลับมาซื้อขายโดยอาศัยมุมมองที่ปัจจัยพื้นฐานของราคาทองคำเช่นเดิมโดยอาจมุ่งประเด็นไปที่นโยบายการเงินที่มีแนวโน้มผ่อนคลายทั่วโลกและประเด็นแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนด้านบวกของราคาทองคำทั้งสิ้น
กล่าวโดยสรุปแล้ว "ออสสิริส" มีความเห็นว่าราคาทองคำน่าจะสามารถกลับมาซื้อขายในแดนบวกได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้จากสภาพคล่องในตลาดการเงินที่สูงขึ้น หลังจากที่ปัญหากวนใจสร้างความผันผวนเริ่มหมดกำลังลงไป ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำจะสามารถแกว่งตัวได้ในกรอบ 1,714-1,782ดอลลาร์/ออนซ์ สัปดาห์นี้
สำหรับแนวโน้มวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหัฐฯ(เฟด) ที่ออกมาย้ำถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ายังคงฟื้นตัวในอัตราที่ช้าลงและตลาดที่อยู่อาศัยยังคงซบเซา โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่เฟดจะต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ถ้อยแถลงดังกล่าวชะลอการอ่อนตัวลงของทองคำและเป็นแรงหนุนให้มีการกลับเข้ามาเก็งกำไรในทองคำอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะของกรีซนั้นยังเป็นปัญหาหลัก โดยรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ชะลอการอนุมัติแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่แก่กรีซ เนื่องจากรอดูว่ากรีซจะสามารถลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้หรือไม่ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ไปว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่กดดันราคาทองคำ แม้ว่ารัฐสภากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ครอบคลุมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำ และการลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือรอบที่สองจากไอเอ็มเอฟและอียู แต่ก็ยังเกิดการประท้วงจากประชาชนจำนวนมากได้ออกมาต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด การชุมนุมประท้วงได้บานปลายกลายเป็นการจลาจลจนถึงขั้นมีการวางเพลิงสถานที่ต่างๆในกลางกรุงเอเธนส์ ซึ่งปัญหาของกรีซนั้นยังคงกดดันราคาทองคำ
เบื้องต้น"วายแอลจี"แนะนำให้รอจัวหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้รอขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้านต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน "วายแอลจี" มีมุมมองว่า ราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,704 หรือ 1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,693 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,710 (24,920บาท) 1,704 (24,830บาท) 1,693 (24,670บาท) แนวต้าน 1,747 (25,460บาท) 1,752 (25,530บาท) 1,764 (25,700บาท) GOLD FUTURES (GFG12) แนวรับ 1,710 (25,060บาท) 1,704 (24,970บาท) 1,693 (24,810บาท) แนวต้าน 1,747 (25,600บาท) 1,752 (25,670บาท) 1,764 (25,850บาท) SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 33.10 (1,000บาท) 32.80 (991บาท) 32.30 (975บาท) แนวต้าน 34.50 (1,043บาท) 34.85 (1,054บาท) 35.23 (1,065บาท)
ด้าน"โกลเบล็ก"ระบุราคาทองคำวานนี้ (13 ก.พ.55) ปรับขึ้นไปบริเวณ $1,732 เหรียญ โดยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดไว้บริเวณ $1,703 เหรียญ การดีดกลับของราคาทองคำตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ของไทยเกิดขึ้นหลังรัฐสภากรีซมีมติเห็นชอบต่อมาตรการรัดเข็มขัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือเงินจากทั้งอียูและไอเอ็มเอฟเป็นจำนวนราว 1.3 แสนล้านยูโร แต่ประชาชนในประเทศยังก่อการประท้วงมาตรการดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,703-1,751ดอลลาร์/ออนซ์ เข้าซื้อเมื่อราคายืนเหนือ $1,700 เหรียญได้ จะทำให้ราคามีโอกาสปรับขึ้นไปใกล้บริเวณ $1,790-1,800 เหรียญ แต่หากยืนเหนือ $1,700 เหรียญไม่ไหว ระมัดระวังการปรับลงของราคาต่อเนื่องถึงบริเวณ $1,670
ด้าน"ออสสิริส" มองว่าราคาทองคำสปอตในสัปดาห์นี้น่าจะสามารถกลับมาปรับตัวบวกต่อตามแนวโน้มเดิมได้หลังจากที่ปัญหาเรื่องกรีซเริ่มกลับมาคลี่คลายลง โดยในระยะกลางยังให้น้ำหนักกับนโยบายการเงินที่ผ่นอคลายในสหรัฐฯเป็นปัจจัยหลักในการพยุงและผลักดันราคาทองคำโดยอาศัยแรงซื้อจากนักเก็งกำไรให้ปรับตัวบวกขึ้นไปได้ในที่สุด
ทั้งนี้ "ออสสิริส" มองว่าความกังวลในเรื่องนโยบายรัดเข็มขัดของกรีซที่ยืดเยื้อและปั่นป่วนส่งผลสร้างความผันผวนต่อสินทรัพย์ต่างๆในสัปดาห์ที่แล้วด้วยอุปสรรคต่างๆนานานั้น น่าจะเริ่มคลี่คลายลงและหมดความกังวลระยะสั้นไปได้ในช่วงต้นสัปดาห์นี้หลังจากที่กรีซมีการโหวตผ่านนโยบายรัดเข็มขัดต่างๆจน Troika อนุมัติเงินกู้ก้อนต่อไปโดยไม่มีเงื่อนไขยุ่งยากในที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นนักลงทุนก็อาจกลับมาซื้อขายโดยอาศัยมุมมองที่ปัจจัยพื้นฐานของราคาทองคำเช่นเดิมโดยอาจมุ่งประเด็นไปที่นโยบายการเงินที่มีแนวโน้มผ่อนคลายทั่วโลกและประเด็นแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนด้านบวกของราคาทองคำทั้งสิ้น
กล่าวโดยสรุปแล้ว "ออสสิริส" มีความเห็นว่าราคาทองคำน่าจะสามารถกลับมาซื้อขายในแดนบวกได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้จากสภาพคล่องในตลาดการเงินที่สูงขึ้น หลังจากที่ปัญหากวนใจสร้างความผันผวนเริ่มหมดกำลังลงไป ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำจะสามารถแกว่งตัวได้ในกรอบ 1,714-1,782ดอลลาร์/ออนซ์ สัปดาห์นี้