ผู้บริหาร “กระเบื้องโอฬาร” ยืนยัน “แร่ใยหินไครโซไทล์” ไม่ใช่สารก่อมะเร็ง เพราะสามารถสลายในร่างกายมนุษย์ได้ภายใน 14 วัน แต่ชนิดแอมฟิโบลที่ก่อมะเร็ง ได้เลิกขุดมาผลิตมานานถึง 40 ปีแล้ว ลั่นฟ้องศาลปกครองหาก สคบ. บังคับให้ติดฉลากระวังสินค้า เนื่องจากผลพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า เป็นแร่ใยหินคนละชนิดกัน
นายอุฬาร เกรียวสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องโอฬาร จำกัด กล่าวระหว่างการเยี่ยมชมการผลิตแร่ใยหิน ไครโซไทล์ ณ เมืองยาสนี่ สหพันธรัฐรัสเซีย โดยระบุว่า เหมืองแร่ใยหินไครโซไทล์ เป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีปริมาณการผลิตประมาณ 500,000 ตันต่อปี ส่งออกไปยัง 24 ประเทศทั่วโลก เช่น จีน อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม ไทย เป็นแร่ที่มีคุณภาพสูง ราคาถูก จึงเหมาะสำหรับเป็นส่วนประกอบในการผลิตกระเบื้องมุงหลังคา เพราะใยหินช่วยสร้างความทนทาน ทนแดดทนฝน
นายอุฬาร กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาได้มีบางหน่วยงาน และเอ็นจีโอบางกลุ่มระดับเวทีโลก ออกมาระบุว่า เศษผงของกระเบื้องที่หลุดล่อนออกมาอาจทำให้ประชาชนผู้ใช้กระเบื้องเป็นมะเร็งได้ เพราะมีหลายประเทศหยุดใช้กระเบื้องจากแร่ใยหินในช่วงที่ผ่านมา แร่ใยหินดังกล่าวยังใช้ผลิตผ้าเบรก คลัตช์ ท่อพีวีซีขนาดใหญ่ เพราะต้องการความทนทานสูง
อย่างไรก็ตาม ศาลโลกได้ตัดสินแล้วว่า แร่ใยหินไครโซไทล์ไม่ใช่สาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็ง แต่เป็นชนิดแอมฟิโบล ซึ่งไม่ได้มีการขุดขึ้นมาใช้แล้วในปัจจุบัน เพราะไครโซไทล์สามารถสลายในร่างกายมนุษย์ได้ภายใน 14 วัน แต่ชนิดแอมฟิโบล ที่ต้องใช้เวลาถึง 466 วัน จึงสลายออกไปได้หมด อีกทั้งเหมืองแร่ดังกล่าวผลิตมานานกว่า 40 ปี แต่ไม่พบว่าพนักงานภายในเหมืองแร่เป็นมะเร็งจากแร่ใยหินไครโซไทล์ รวมถึงชาวรัสเซียที่อาศัยบริเวณเหมืองแร่ที่ใช้กระเบื้องจากส่วนประกอบใยหินไครโซไทล์ได้รับผลกระทบ
“กระเบื้องที่ใช้สารดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ จึงไม่ใช่สาเหตุการก่อมะเร็งตามที่บางหน่วยงานกล่าวอ้าง นอกจากนี้ ยังได้ฟ้องศาลปกครอง กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บังคับให้ติดฉลากในสินค้าให้ระวังการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากส่วนประกอบในการผลิตกระเบื้องพิสูจน์แล้วว่าเป็นต่างชนิดกัน”
นายอังเดร โกรม ผู้จัดการโรงงานและเหมืองแร่ โอเร็นเบิร์ก ไมเนอรอล สหพันธรัฐรัสเซีย กล่าวว่า นอกจากการผลิตเหมืองในปัจจุบันแล้ว ยังมีอีก 11 หลุม สามารถผลิตได้ถึง 150 ปี ส่งออกไปทั่วโลก ทั้ง จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย จึงได้พาผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้แจงว่า แร่ใยหินไครโซไทล์ ไม่เป็นสาเหตุการเกิดมะเร็ง เพราะทั้งศาลโลกได้ตัดสินแล้วว่าไม่เป็นอันตราย
ขณะเดียวกัน สถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติสรุปว่า เป็นแร่ใยหินชนิด แอมฟิโบล ที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ แต่ไม่มีการขุดแร่ดังกล่าวมาใช้แล้วในปัจจุบัน วัดจากความเป็นอยู่ของชาวรัสเซียรอบเหมืองแร่ไครโซไทล์ ซึ่งได้ใช้กระเบื้องแร่ใยหิน และทำงานในเหมืองมาเป็นเวลานาน พบว่าไม่มีใครป่วยเป็นมะเร็งจากไร่ใยหิน เพราะมะเร็งมีหลากหลายสาเหตุ ทั้งเหล้า บุหรี่ สารเคมีตกค้าง ปลาเค็ม ฝุ่นละอองสารพิษ หากป้องกันไม่ดีมีโอกาสเป็นได้ทั้งหมด
โดยขณะนี้ รัฐบาลไทยได้ตั้งคณะกรรมการร่วมโดยมีภาคเอกชนรัสเซีย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว แก้ปัญหาการแบนสินค้าที่ผลิตจากแร่ใยหิน เพราะอาจขัดต่อข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้
