xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยเช้านี้ยัง “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ระวังความผันผันจากแรงขายทำกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้กลยุทธ์ การลงทุนในตคลาดหุ้นไทย ช่วงเช้าวันนี้ว่า “ขึ้นขาย ลงซื้อ” แนวโน้มตลาด : Test 1,200 ในระยะสั้น

ทั้งนี้ บรรยากาศลงทุนเชิงบวกจากภายนอกจะช่วยหนุนให้ SETI ปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,200 จุดได้อีกครั้งในวันนี้ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังดูไร้ทิศทาง แต่โดยรวมก็ได้หนุนการปรับขึ้นของตลาดหุ้น และน้ำมันได้ดี ขณะที่ตลาดยุโรป ฟื้นตัวจากการที่ รมว.คลังยูโรโซนตกลงที่จะปรับเพิ่มขนาดเงินกองทุนที่ใช้ในการช่วยเหลือประเทศสมาชิกยูโรโซน อย่างไรก็ดี สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่ยะลา และหาดใหญ่ ในช่วงสุดสัปดาห์ ย่อมส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อใกล้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ มอง SETI จะปรับขึ้นได้เพียงระยะสั้นในกรอบจำกัด

กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” แต่ต้องระวังความผันผวนของตลาด โดยเฉพาะแรงขายทำกำไรเมื่อเทรดขึ้นเหนือ 1,200 จุด

แนวต้าน : 1,202-1,210 แนวรับ : 1,193-1,187

Weekly Strategy: หุ้นเด่น…รับปิดเทอมหน้าร้อน

ภาพรวมในช่วง 3 สัปดาห์ข้างหน้า จะเป็นช่วงที่ไทยมีวันหยุดยาวหลายช่วงติดต่อกัน ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังมีความไม่แน่นอนจากประเด็นเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ รวมถึงไทยที่จะมีการเริ่มปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทใน 7 จังหวัด (กทม., สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ปทุมธานี, นนทบุรี, นครปฐม และภูเก็ต) และปรับเพิ่ม 40% ทั่วประเทศ ในเดือน เม.ย.นี้ จะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และการว่างงานตามมา ซึ่งอาจต้องรอสรุปภาพผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้นอีกครั้งหนึ่ง กอปรกับการปรับขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาโดยแทบจะปราศจากการพักตัวอย่างจริงจัง จึงมองว่าความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ จะทำให้นักลงทุนบางส่วนขายลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาวมากขึ้น ดังนั้น ภาพรวมจึงมีความเสี่ยงทางลงล้อมกรอบอยู่ แม้จะเทรดเหนือ 1,200 จุดอยู่ก็ตาม สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวในช่วง 3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ มองแนวต้านที่ 1,230 และ แนวรับที่ 1,180 จุด กลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น: แนะนำเทรดหุ้นรับช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ซึ่งอาจเป็นฤดูกาลที่ทำให้มีการใช้จ่ายสินค้าในบางประเภทเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าสนใจ โดยมีหุ้นเด่นดังนี้ AS, DTAC และ MINT รวมถึงหุ้นปัน ผลในเกณฑ์สูงราว 5% ขึ้นไป ที่รอขึ้นเครื่องหมาย XD ก็ดูมีความปลอดภัยในการถือมากกว่า

วิเคราะห์รายวัน :
KTB : ทยอยซื้อ กำไร 1Q55 คาดฟื้นตัว q-q, y-y มาที่ 6.68 พันล้านบาท

กำไรสุทธิ 1Q55 คาดขยายตัว q-q, y-y สู่ 6.68 พันล้านบาท โดยการเติบโตมาก q-q มาจากสำรองในระดับสูงถึง 7.51 พันล้านบาทใน 4Q54 ธนาคารปฏิเสธข่าวเข้าซื้อหุ้น KTC เพิ่ม รวมถึงข่าวการเพิ่มทุนของ KTB เอง
ราคาพื้นฐานปี 2555 อยู่ที่ 18.60 บาท/หุ้น โดยทางฝ่ายแนะนำ “ทยอยซื้อ”

SMIT : ซื้อเก็งกำไร ได้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว

4Q54 กำไรสุทธิลดลง 27.83% y-y เป็นผลจากน้ำท่วม แต่โดยรวมทั้งปี 54 ยังโต 10.78% y-y และได้ประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีหลังอีก 0.12 บาท/หุ้น XD 8 พ.ค. 55 ทั้งปีจ่ายปันผล 0.22 บาท น้ำท่วมกลับส่งผลดีต่อ 1Q55 ที่โรงงานต่างๆ มีการเปลี่ยนเครื่องจักร/อุปกรณ์ ทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้โตขึ้น และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ส่งผลดีต่อกลุ่มเหล็กแข็งพิเศษ คาดจะเห็น 1Q55 มีรายได้รายไตรมาสทำสถิติสูงสุด ยังคงประมาณการกำไรปี 55 ไว้ โดยจะพิจารณาประมาณการอีกหลังประกาศงบ 1Q55 อิง P/E 8 เท่า ราคาพื้นฐาน 3.92 บาท ยังแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

TTW : ซื้อเก็งกำไร ยอดขายน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

2 เดือนแรกปี 55 ยอดจ่ายน้ำของ TTW และ PTW เพิ่มขึ้น 11.11% และ 7.39% y-y โดยยอดจ่ายน้ำเฉลี่ย/วันในเดือน ก.พ. ของ TTW และ PTW เป็นสถิติสูงสุด และยังได้มีการปรับขึ้นค่าน้ำประปาประจำปีตั้งแต่ ม.ค. 55 ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจน้ำและโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก และได้เข้าถือหุ้น CKP 30% ในเดือน พ.ย. 54 คาด CKP จะมีกำไรหลังเพิ่มทุนเสร็จในต้น 2Q55 จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาของ PTW และ TTW เป็น 4.5 แสนลบ.ม. และ 5.4 แสน ลบ.ม./วัน คาดจะแล้วเสร็จในปี 57 และปี 58 ตามลำดับ โดยในเดือน ก.พ. ใช้กำลังการผลิตที่ประมาณ 95% และ 79% ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” ราคาพื้นฐาน 6.80 บาท

Market News :
BLS : จะออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตลาดวันที่ 7 เม.ย. 55 (ที่มา: SET)

จากแผนการดำเนินธุรกิจของ BBL ที่จะปรับไปสู่การเป็น Universal Bank จึงต้องการนำ BLS ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดเพื่อความคล่องตัวในการวางกลยุทธ์ โดยหลังจากที่ทำคำเสนอซื้อส่งให้ปัจจุบัน BBL ถือใน BLS ทั้งสิ้น 269.19 ล้านหุ้นหรือ 99.70% และได้ขอเพิกถอนการเป็นหลักทรัพย์จดทะเทียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยกำหนดวันซื้อขายสุดท้ายในตลาดวันที่ 5 เม.ย.55

GRAMMY : ตั้งเป้ายอดขาย set top box ของ “GMM Z” ที่ 2 ล้านกล่อง (ที่มา: ประชุมนักวิเคราะห์)

เปลี่ยนชื่อในการให้บริการเคเบิลทีวีจาก “1 SKY” เป็น “GMM Z” พร้อมกับเปลี่ยนโลโก้ให้มีสีสันสดใสมากขึ้น ตั้งเป้าการขาย set top box จากเดิม 1.5 ล้านกล่อง เป็น 2 ล้านกล่อง โดยจะจับมือกับ Modern Trade ทั้ง BIGC และ Tesco Lotus รวมถึงร้าน 7-11, JMART, Power Buy และ Dealer ของ AIS ในการขาย โดยจะเริ่มขาย 1 เม.ย. 55 ปัจจุบัน ขายกล่องได้กว่า 1 แสนกล่อง และคาดในช่วงก่อนฟุตบอลโลกจะมียอดซื้อมากขึ้น และยังมีผู้ผลิตโทรทัศน์ซื้อเพื่อทำโปรโมรชันในการขาย ซึ่งมียอดแล้วราว 4 แสนกล่อง การเปิดรับสมาชิกเพื่อเสียค่ารายเดือน จะเริ่มเดือน มิ.ย. โดยคาดว่าจะมีผู้สมัครเป็นสมาชิกที่ราว 10-15% ของกล่องที่ขาย และมอง Arpu เฉลี่ยที่ 300-350 บาท/เดือน ทางฝ่ายยังคงไม่ปรับประมาณการ แม้เป้าจะเป็นบวกมากขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงว่าจะสามารถขายกล่องได้ตามเป้าหรือไม่ รวมถึงผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิก คงราคาพื้นฐานที่ 17.60 บาท แนะนำ “ขายทำกำไร”
กำลังโหลดความคิดเห็น