เซ็นจูรี่ฯ เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ซื้อบ้าน ประชาชนกว่า 63% ยังไม่คิดซื้อหลังใหม่ หลังโดนน้ำท่วม เพราะธรรมชาติของคนไทยไม่ชอบย้ายถิ่นอาศัยเดิม เนื่องจากมีความผูกพันกับเครือญาติ และไม่ต้องการย้ายที่อยู่ไกลจากที่ทำงานเดิม ลุ้นปีนี้จะไม่จมน้ำซ้ำ
นายชนะ นันทจันทูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นจูรี่ ทเว็นตี้วัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยผลสำรวจการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยหลังน้ำท่วมของประชาชนในเขตกรุงเทพฯ แและปริมณฑล ซึ่งบริษัทได้ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำขึ้น โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่คิดซื้อบ้านใหม่สูงถึงร้อยละ 63 สาเหตุหลักมาจากธรรมชาติของคนไทยที่มักไม่ชอบย้ายถิ่นอาศัยเดิมเนื่องจากมีความผูกพันกับเครือญาติหรือไม่ต้องการย้ายที่อยู่ให้ไกลจากสถานที่ทำงานเดิม
ส่วนประชาชนอีกกลุ่มที่คิดซื้อที่อยู่อาศัยใหม่นั้นมีอยู่ร้อยละ 34 โดยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เคยถูกน้ำท่วม และไม่แน่ใจว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นอีกหรือไม่ และไม่ระบุคำตอบอีกร้อยละ 3 ส่วนประเภทที่อยู่อาศัยที่ประชาชนต้องการซื้อนั้น บ้านเดี่ยวยังคงได้รับความนิยมสูงสุดที่ร้อยละ 47.40 รองลงมาคือ คอนโดมิเนียมที่ร้อยละ 33.40 และทาวน์เฮาส์ร้อยละ 13.70 อีกร้อยละ 5.30 ไม่ระบุประเภทที่อยู่อาศัยและระดับราคาที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุด คือ ระดับ 1-2 ล้านบาท ร้อยละ 38.40 รองมาคือ 2-4 ล้านบาท ที่ร้อยละ 37.70 ส่วนราคาที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทมีประชาชนสนใจเพียงร้อยละ 10.80
ด้านความคาดหวังที่ประชาชนอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุดคือการสร้างมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่ชัดเจนที่ระดับร้อยละ 51.70 รองลงมาคือ เรื่องการผ่อนภาระให้กับผู้ซื้อคือมาตรการด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 48.30 และการลดค่าธรรมเนียมการโอน และภาษีอสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 33.80
นายชนะกล่าวอีกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ยังขยายตัวคงที่ หัวเมืองใหญ่จะมีโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นขณะที่ทิศทางการปรับตัวผู้ประกอบการจะเน้นการเพิ่มโครงการขายในหัวเมืองใหญ่ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ พัทยา และหัวหิน โดยการฟื้นตัวจะชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังเนื่องจากประชาชนยังรอจับตาสถานการณ์น้ำท่วมหลังฤดูฝน หากไม่กระทบรุนแรงจะขยายตัวได้ในไตรมาสที่ 4 ได้แน่นอน