ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าวรวบคนงานก่อสร้าง ฆ่าชิงทรัพย์ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลบ้านฉาง จังหวัดระยอง พร้อมข่มขืนศพ รับสารภาพเมาแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พร้อม พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข ผบก.สส.ภ.2 ร่วนกัน แถลงข่าวจับกุม นายจักรพันธ์ หรือ ฟัก ปูเรือง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.4 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย อาชีพคนงานก่อสร้าง หลังถูกตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 จับกุมที่บ้านพักคนงานก่อสร้าง ซ.นิมิตรใหม่ 20 แขวงนิมิตใหม่ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2554 เวลา 01.00 น.นายจักรพันธ์ ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง ของ น.ส.ระวีวรรณ หรือ ส้ม พัดแก้ว อายุ 24 ปี ผู้ช่วยพยาบาล แผนกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลบ้านแง จ.ระยอง เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณป่าละเมาะใกล้หอพักของโรงพยาบาล ขณะกำลังเดินจากหอพักเพื่อไปขึ้นเวรดึกที่โรงพยาบาล ซึ่งห่างกันเพียง 500 เมตร เป็นเส้นทางเปลี่ยว สภาพศพผู้ตาย มีร่องรอยถูกทำร้ายฟกช้ำ ริมฝีปากถูกกัดเป็นแผล ลำคดถูกรัดด้วยเสื้อยืด และมือทั้งสองข้างถูกมัดด้วยกางเกงวอร์มของผู้ตายเอง และที่อวัยวะเพศยังพบร่องรอยถูกข่มขืนอีกด้วย
นายจักรพันธ์ ผู้ต้องหา รับสารภาพอ้างว่า คืนเกิดเหตุนั่งดื่มสุรา จนเมา และทะเลาะกับเพื่อนร่วมทำงานก่อสร้าง 3 คน รุมด่าเรื่องหาว่า ตนใช้โทรศัพท์นานมาก ประกอบกับดื่มสุราจนเมาและเดินด้วยเท้า ประมาณ 1.5 กม.พบผู้ตายที่จุดเกิดเหตุถือประเป๋ามาตามลำพัง จึงอยากได้ทรัพย์สินของผู้ตาย จึงใช้มือข้างหนึ่งจับที่มือผู้ตายข้างที่ถือกระเป๋าและใช้มืออีกข้างปิดปาก และจมูกของผู้ตายจนหายใจไม่ออก คล้ายจะเสียชีวิต และลากผู้ตายเข้าไปไว้ที่ป่าละเมาะข้างถนน จนผู้ตายแน่นิ่ง จึงเอาโทรศัพท์ไป แล้วเดินออกไป
แต่อีก 15 นาที เกิดอยากมีเพศสัมพันธ์กับศพ จึงตัดสินใจเดินทางไปข่มขืนศพ จนสำเร็จความไคร่ 1 ครั้ง จากนั้นก็เดินกลับเข้าแคมป์คนงาน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนอีก 1 เดือน ตนย้ายตามแคมป์คนงานไปทำงานก่อสร้างที่ กทม.จึงนำโทรศัพท์ไปขายที่ร้านโทรศัพท์ ในห้างแห่งหนึ่งของ กทม.ย่านบางมด ใกล้คนงานของตน จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว
โดยบิดามารดาของผู้ตาย คือ นายบรรเจิด และ นางนฤมล พัดแก้ว อายุ 55 ปี ได้นำสามีผู้ตาย คือ นายราชรถ พร้อมลูกชายวัย 4 ขวบ คือ ด.ช.ชัยพัฒน์ หรือ น้องตะวัน มาดูหน้าคนร้าย ทางคนร้ายจึงขอกราบเท้าเพื่อขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปท่ามกลางน้ำตาของมารดา ที่เสียใจในครั้งนี้
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า จากกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามล่าคนร้ายอย่างกระชั้นชิด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญประชาชน และทำให้เจ้าหน้าที่พยาบาลและแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านฉาง ต้องลาออก และย้ายถิ่นฐานกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ทางตำรวจต้องทำการสอบสวนและตรวจดีเอ็นเอคนใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท ในที่สุดก็สามารถจับกุมคนร้ายได้และยอมรับสารภาพว่า ทำเพราะต้องการทรัพย์สินและข่มขืน ตนเชื่อว่า หลักฐานที่มีอยู่สามารถดำเนินคดีเอาผิดคนร้ายอย่างแน่นอน
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พร้อม พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข ผบก.สส.ภ.2 ร่วนกัน แถลงข่าวจับกุม นายจักรพันธ์ หรือ ฟัก ปูเรือง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.4 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย อาชีพคนงานก่อสร้าง หลังถูกตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 จับกุมที่บ้านพักคนงานก่อสร้าง ซ.นิมิตรใหม่ 20 แขวงนิมิตใหม่ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2554 เวลา 01.00 น.นายจักรพันธ์ ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง ของ น.ส.ระวีวรรณ หรือ ส้ม พัดแก้ว อายุ 24 ปี ผู้ช่วยพยาบาล แผนกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลบ้านแง จ.ระยอง เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณป่าละเมาะใกล้หอพักของโรงพยาบาล ขณะกำลังเดินจากหอพักเพื่อไปขึ้นเวรดึกที่โรงพยาบาล ซึ่งห่างกันเพียง 500 เมตร เป็นเส้นทางเปลี่ยว สภาพศพผู้ตาย มีร่องรอยถูกทำร้ายฟกช้ำ ริมฝีปากถูกกัดเป็นแผล ลำคดถูกรัดด้วยเสื้อยืด และมือทั้งสองข้างถูกมัดด้วยกางเกงวอร์มของผู้ตายเอง และที่อวัยวะเพศยังพบร่องรอยถูกข่มขืนอีกด้วย
นายจักรพันธ์ ผู้ต้องหา รับสารภาพอ้างว่า คืนเกิดเหตุนั่งดื่มสุรา จนเมา และทะเลาะกับเพื่อนร่วมทำงานก่อสร้าง 3 คน รุมด่าเรื่องหาว่า ตนใช้โทรศัพท์นานมาก ประกอบกับดื่มสุราจนเมาและเดินด้วยเท้า ประมาณ 1.5 กม.พบผู้ตายที่จุดเกิดเหตุถือประเป๋ามาตามลำพัง จึงอยากได้ทรัพย์สินของผู้ตาย จึงใช้มือข้างหนึ่งจับที่มือผู้ตายข้างที่ถือกระเป๋าและใช้มืออีกข้างปิดปาก และจมูกของผู้ตายจนหายใจไม่ออก คล้ายจะเสียชีวิต และลากผู้ตายเข้าไปไว้ที่ป่าละเมาะข้างถนน จนผู้ตายแน่นิ่ง จึงเอาโทรศัพท์ไป แล้วเดินออกไป
แต่อีก 15 นาที เกิดอยากมีเพศสัมพันธ์กับศพ จึงตัดสินใจเดินทางไปข่มขืนศพ จนสำเร็จความไคร่ 1 ครั้ง จากนั้นก็เดินกลับเข้าแคมป์คนงาน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนอีก 1 เดือน ตนย้ายตามแคมป์คนงานไปทำงานก่อสร้างที่ กทม.จึงนำโทรศัพท์ไปขายที่ร้านโทรศัพท์ ในห้างแห่งหนึ่งของ กทม.ย่านบางมด ใกล้คนงานของตน จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว
โดยบิดามารดาของผู้ตาย คือ นายบรรเจิด และ นางนฤมล พัดแก้ว อายุ 55 ปี ได้นำสามีผู้ตาย คือ นายราชรถ พร้อมลูกชายวัย 4 ขวบ คือ ด.ช.ชัยพัฒน์ หรือ น้องตะวัน มาดูหน้าคนร้าย ทางคนร้ายจึงขอกราบเท้าเพื่อขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปท่ามกลางน้ำตาของมารดา ที่เสียใจในครั้งนี้
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า จากกรณีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามล่าคนร้ายอย่างกระชั้นชิด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญประชาชน และทำให้เจ้าหน้าที่พยาบาลและแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านฉาง ต้องลาออก และย้ายถิ่นฐานกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ทางตำรวจต้องทำการสอบสวนและตรวจดีเอ็นเอคนใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท ในที่สุดก็สามารถจับกุมคนร้ายได้และยอมรับสารภาพว่า ทำเพราะต้องการทรัพย์สินและข่มขืน ตนเชื่อว่า หลักฐานที่มีอยู่สามารถดำเนินคดีเอาผิดคนร้ายอย่างแน่นอน
