ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บัญชาการภาค 2 แถลงข่าวการจับกุมพ่อค้า ยาบ้า ได้พร้อมของกลางยาบ้า 1 แสนเม็ด ยึดทรัพย์อีกกว่า 2 ล้านบาท จากเครือข่ายเรือนจำจังหวัดระยอง
วันนี้ (12 ม.ค.) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า เนื่องจากตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังแพร่ระบาดคุกคามและบ่อนทำลายประเทศชาติอยู่ในปัจจุบัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติ ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง
ล่าสุดทางตำรวจภูธรภาค 2 โดยมอบหมายให้ บก.สส.ภ.2 ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดทีมีพฤติกรรมเป็นนักค้ารายใหญ่ข้ามจังหวัด และผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดรายสำคัญ
โดยเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ. 2 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พต.ต.ต.โกศล พัวเวส รองผู้บัญชาการภาค 2 พล.ต.ต.นิวัตน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผู้บัญชาการภาค 2 พ.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ชุ่นทรัพย์ รองผู้บัญชาการภาค 2 โดยมี พ.ต.ท.ธาวิน สุขพูล สว.กก.สส.1 หัวหน้าชุดจับกุม พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 2 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวธารารัตน์ หรือหมวย คูหาวรารักษ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/3 ม.2 ต.สุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาที่ 1 และนายธนชล หรือโอ๋ บุญกรม อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 178/ 50 ม.3 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
โดยหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า น.ส.ธารารัตน์ หรือหมวย และ ธนชล หรือ โอ๋ ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ได้มาเช่าห้องพักที่ อาคาร เจ เอส อพาร์ทเม้น สำหรับนำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ในห้องดังกล่าว เพื่อรอการส่งยาให้ลูกค้า จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ภายในห้องพักดังกล่าวจึงได้ทำการตรวจค้น พบยาบ้ารวม 1 แสนเม็ด
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่ายาบ้าเป็นของตนเองจริง และเตรียมไว้จำหน่ายให้กับลูกค้า ตามคำสั่งของผู้ต้องขังคดียาเสพติดที่เรือนจำจังหวัดระยอง โดยใช้โทรศัพท์ในการติดต่อซื้อขายกัน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมจับกุมส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ. ศรีราชา ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขยายผลเพื่อจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนทรัพย์สินของผู้ต้องหาได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 2 ให้ทำการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้อง กับเครือข่ายที่จับกุมในเบื้องต้นพบและได้อายัดเงินสดในบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท พร้อมของกลางนอกจากยาบ้าจำนวน 1 แสนเม็ดแล้ว ยังมีโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เครื่องชั่งยาบ้าระบบดิจิตอล 1 เครื่อง สมุดบันทึกการซื้อขายยาบ้า และหมายเลขบัญชีที่ใช้โอนเงินจำนวน 15 เล่ม ใบบันทึกการโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มจำนวน 40 แผ่น
