xs
xsm
sm
md
lg

สบน.พร้อมรับหนี้ รสก.แต่ต้องนำทรัพย์สินมาแลกให้คลังบริหารแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สบน.พร้อมรับหนี้จากรัฐวิสาหกิจ แต่ต้องนำทรัพย์สินมาแลกให้คลังบริหารแทน อิงแนวทางเดียวกับกองทุนฟื้นฟูฯ ระบุ การรถไฟฯมีทรัพย์สินมากมีความเป็นไปได้สูง พร้อมเดินหน้าหาเงินกู้ลงทุนด้านน้ำก้อนแรก 3 หมื่นล้าน

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวถึงแนวคิดการยกเลิกการค้ำประกันเงินกู้้ให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้สินและขาดทุนสะสมมานาน เพื่อลดภาระหนี้สาธารณะของภาครัฐอีกทางหนึ่ง ว่า หากรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณชำระหนี้ให้แต่ละปีก็มีความเป็นไปได้ โดยอยู่ระหว่างหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งทาง รมว.คมนาคม เห็นด้วยกับแนวทางลดภาระหนี้ดังกล่าว จึงอาจนำข้อเสนอเดิมของสำนักงาคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่เสนอให้นำทรัพย์สินมาแลกกับการรับภาระหนี้ โดยส่วนของรถไฟนั้น ถือว่า มีทรัพย์สินที่อยู่ในการครอบครองจำนวนมาก

ทั้งนี้ หากการรถไฟฯโอนทรัพย์สินบางส่วนมาเท่ากับหนี้สินที่มีอยู่กระทรวงการคลัง โดย สคร.จะทำหนาที่บริหารให้มีผลตอบแทนเพื่อนำรายได้นำส่งเข้ารัฐต่อไป ส่วนหนี้ที่โอนมานั้นรัฐบาลก็จะตั้งงบประมาณชำระให้ในแต่ละปีจนกว่าจะล้างหนี้ได้ทั้งหมด

“เมื่อการรถไฟฯ หรือ ขสมก.โอนหนี้มาให้กระทรวงการคลังแล้ว ฐานะของทั้งสองแห่งก็จะดูดีขึ้น หากจะตั้งบริษัทลูกเพื่อดำเนินธุรกิจก็สามารถระดมทุน หรือกู้เงินได้เองโดยที่กระทรวงการคลังไม่ต้องค้ำประกันให้อีกต่อไป แต่เมื่อหนี้เก่าหายไปแล้ว ก็ต้องมีแผนบริหารจัดการในการหารายได้ที่ชัดเจนเพื่อให้สอดรับกับรายจ่ายด้วย” นายจักรกฤศฏิ์ กล่าว และวางแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินของ 2 แห่ง น่าจะมีความเป็นไปได้สูง เพราะ รมต.ทั้ง 2 กระทรวง มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน ซึ่งนโยบายการรับหนี้จากรัฐวิสาหกิจดังกล่าวอาจเหมือนกับการรับภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันนการเงิน ที่มีการเคลียร์หนี้ท้้งก้อนแลัวมาตั้งงบชำระคืนในแต่ละปีนกว่าจะหนด

สำหรับการตั้งงบชำระหนี้ในปีงบประมาณ 2556 ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาขอจัดสรรวงเงินจากสำนักงบประมาณ ซึ่งน่าจะได้รับจัดสรรลดลงหลังภาระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯหายไป 6 หมื่นล้านบาท แต่จะพยายามรักษาะดับการชำระหนี้เงินต้นให้ได้ 3% ของวงเงินงบประมาณที่เหลือเป็นการชำระดอกเบี้ย ซึ่งเหตุที่ไม่ได้รับการจัดสรรเพิ่ม เพราะรัฐบาลต้องการนำไปเพิ่มในสัดส่วนงบลงทุน

นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวถึงการกู้เงินลงทุนบริหารจัดการน้ำ ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนเฉพาะการลงทุนสร้างเขื่อน หรือแนวป้องกันน้ำท่วมตามแม่น้ำเจ้าพระยาในวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท แต่การกู้เงินจะทำตามกรอบการใช้เงินเพราะคงไม่ได้สร้างเสร็จพร้อมกันอาจเป็น 3 เดือน 6 เดือน หรือ1 ปี ขึ้นอยู่กับว่าโครงการเดินไปได้เร็วแค่ไหน จึงจะทยอยเบิกเงินกู้จากสถาบันการ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้เรียกให้มาเสนออัตราดอกเบี้ย แต่คาดว่า จะมีทั้งแบงก์รัฐและเอกชนใหความสนใจ

อย่างไรก็ตาม จะพยายามใช้สภาพคล่องในประเทศก่อน แค่หากเงื่อนไขไม่ดีก็ยังมีวงเงินที่ไจก้าเปิดไว้ให้อีก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ไทยสามารถกู้มาลงทุนด้านน้ำได้ ส่วนอีก 6 หมื่นล้่านบาท สำหรับจ่ายชดเชยพื้นที่รับน้ำนั้น ยังไม่มีความชัดเจน และอาจไม่ได้ใช้ตามที่กำหนดไว้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่เข้าไปในพื้นที่จึงไม่จำเป็นตองรีบกู้
กำลังโหลดความคิดเห็น