ASTVผู้จัดการรายวัน- “โกลเบล็ก” ประเมิน นักลงทุนเริ่มเทขายทองคำออกมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีความต้องการเคลื่อนย้ายเงินกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯมากขึ้น หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ด้าน “วายแอลจี”ระบุ การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯกดดันราคาทองคำให้ดิ่งลงอย่างหนัก อย่างไรก็ดีทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการแถลงของเฟดที่กังวลเรื่องปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ แนะให้นักลงทุนเก็งกำไรในระยะสั้น ประเมินแนวรับที่ระดับราคา 1,706 หรือ 1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์
“โกลเบล็ก”กล่าวถึงราคาทองคำวานนี้ (5 ก.พ.) ปรับลงมาแนวรับตามคาด เนื่องจากการเจรจาปัญหาหนี้สินของกรีซยังไม่เสร็จสิ้นตามตลาดคาดหวัง ส่งผลลบต่อสกุลเงินยูโรอ่อนค่า และกดดันราคาทองคำเจอแรงขายต่อจากคืนวันศุกร์จนราคาลงมาทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ $1,715 เหรียญ ซึ่งก่อนหน้านี้ นักลงทุนเริ่มมีแรงขายในทองคำออกมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วหลังมีความต้องการเคลื่อนย้ายเงินกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯมากยิ่งขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้นต่อเนื่อง
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ มีสิทธิลงไปทดสอบเส้นแนวรับ Uptrend Channel บริเวณ $1,705 เหรียญ หลังราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นได้จนกว่าจะหลุด $1,610 เหรียญจึงจะจบรอบขาขึ้น จึงแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อบริเวณแนวรับ โดยแนวรับทยอยสะสมซื้อทองคำกลับอยู่ที่ $1,700-1,705 เหรียญต่อออนซ์
ด้าน“วายแอลจี”ระบุสภาวะตลาดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,719.30-1,737.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 25,300 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 600 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,900 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 1,035 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 24 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,059 บาท
สำหรับแนวโน้มวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐกดดันราคาทองคำให้ดิ่งลงอย่างหนักจนในช่วงที่ผ่านมา โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมกราคม ของสหรัฐฯพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่ง อีกทั้ง อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธันวาคม ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว ซึ่งจะกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ประกอบกับนักลงทุนมองว่ามีโอกาสน้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีก หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังการฟื้นตัวเร็วขึ้นได้เพิ่มแรงกดดันให้กับราคาทองคำเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่แสดงถึงความกังวลของปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอ ซึ่งสะท้อนได้จากปัญหาเรื่องการขาดุลงบประมาณเป็นสิ่งที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีความกังวลมากเป็นพิเศษ ในส่วนของ “วายแอลจี” ประเมินว่า อัตราการว่างงานที่ 8.3% ก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง ทำให้ “วายแอลจี” ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาวต่อไป สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำนั้น “วายแอลจี” แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในระยะสั้นการความผันผวนของราคาทองคำ และควรมีการตั้งจุดตัดขาดทุนตามความเสี่ยงที่สามารถรับได้เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุนได้หากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทาง “วายแอลจี” มีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำพยายามพยุงราคาและพยายามตั้งฐานของราคา โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับนักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะสั้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,706 หรือ 1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,737 หรือ 1,743 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)แนวรับ 1,706 (24,990 บาท) 1,697 (24,850 บาท) 1,685 (24,680 บาท) แนวต้าน 1,737 (25,440 บาท) 1,743 (25,530 บาท) 1,755 (25,710 บาท)GOLD FUTURES (GFG12)แนวรับ 1,706 (25,100บาท) 1,697 (24,970 บาท) 1,685 (24,790 บาท) แนวต้าน 1,737 (25,560 บาท) 1,743 (25,640 บาท) 1,755 (25,820 บาท) SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 33.10 (1,026 บาท) 32.71 (1,014 บาท) 32.10 (995 บาท)
แนวต้าน 33.88 (1,050 บาท) 34.24 (1,061 บาท) 34.85 (1,080 บาท)
“โกลเบล็ก”กล่าวถึงราคาทองคำวานนี้ (5 ก.พ.) ปรับลงมาแนวรับตามคาด เนื่องจากการเจรจาปัญหาหนี้สินของกรีซยังไม่เสร็จสิ้นตามตลาดคาดหวัง ส่งผลลบต่อสกุลเงินยูโรอ่อนค่า และกดดันราคาทองคำเจอแรงขายต่อจากคืนวันศุกร์จนราคาลงมาทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ $1,715 เหรียญ ซึ่งก่อนหน้านี้ นักลงทุนเริ่มมีแรงขายในทองคำออกมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วหลังมีความต้องการเคลื่อนย้ายเงินกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯมากยิ่งขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้นต่อเนื่อง
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ มีสิทธิลงไปทดสอบเส้นแนวรับ Uptrend Channel บริเวณ $1,705 เหรียญ หลังราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นได้จนกว่าจะหลุด $1,610 เหรียญจึงจะจบรอบขาขึ้น จึงแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อบริเวณแนวรับ โดยแนวรับทยอยสะสมซื้อทองคำกลับอยู่ที่ $1,700-1,705 เหรียญต่อออนซ์
ด้าน“วายแอลจี”ระบุสภาวะตลาดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,719.30-1,737.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 25,300 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 600 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,900 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 1,035 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 24 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,059 บาท
สำหรับแนวโน้มวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐกดดันราคาทองคำให้ดิ่งลงอย่างหนักจนในช่วงที่ผ่านมา โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมกราคม ของสหรัฐฯพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 243,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่ง อีกทั้ง อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.3% จากระดับ 8.5% ของเดือนธันวาคม ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว ซึ่งจะกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ประกอบกับนักลงทุนมองว่ามีโอกาสน้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีก หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังการฟื้นตัวเร็วขึ้นได้เพิ่มแรงกดดันให้กับราคาทองคำเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่แสดงถึงความกังวลของปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอ ซึ่งสะท้อนได้จากปัญหาเรื่องการขาดุลงบประมาณเป็นสิ่งที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีความกังวลมากเป็นพิเศษ ในส่วนของ “วายแอลจี” ประเมินว่า อัตราการว่างงานที่ 8.3% ก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง ทำให้ “วายแอลจี” ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาวต่อไป สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำนั้น “วายแอลจี” แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในระยะสั้นการความผันผวนของราคาทองคำ และควรมีการตั้งจุดตัดขาดทุนตามความเสี่ยงที่สามารถรับได้เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุนได้หากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทาง “วายแอลจี” มีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำพยายามพยุงราคาและพยายามตั้งฐานของราคา โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับนักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะสั้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,706 หรือ 1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,737 หรือ 1,743 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)แนวรับ 1,706 (24,990 บาท) 1,697 (24,850 บาท) 1,685 (24,680 บาท) แนวต้าน 1,737 (25,440 บาท) 1,743 (25,530 บาท) 1,755 (25,710 บาท)GOLD FUTURES (GFG12)แนวรับ 1,706 (25,100บาท) 1,697 (24,970 บาท) 1,685 (24,790 บาท) แนวต้าน 1,737 (25,560 บาท) 1,743 (25,640 บาท) 1,755 (25,820 บาท) SILVER FUTURES (SVG12) แนวรับ 33.10 (1,026 บาท) 32.71 (1,014 บาท) 32.10 (995 บาท)
แนวต้าน 33.88 (1,050 บาท) 34.24 (1,061 บาท) 34.85 (1,080 บาท)
