xs
xsm
sm
md
lg

"โกร่ง" มั่นใจ นลท.ญี่ปุ่นไม่หนี ลั่นหนุน "อยุธยา" นำร่องฟื้นฟูภาพลักษณ์ ปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"โกร่ง" เผยงานแรก กยอ. เร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย นำร่อง "อยุธยา" เพราะเป็นเมืองอุตฯ และท่องเที่ยว มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ มั่นใจนักลงทุนญี่ปุ่นไม่ย้ายหนี พร่อมเร่งเจรจาประกันภัยเคลมความเสียหาย

นายวีรพงษ์ รางมางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.) กล่าวว่า งานแรกที่จะต้องเร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศภายหลังที่ไทยประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนักในครั้งนี้ คือ พยายามดึงนักท่องเที่ยวให้กลับเข้ามาท่องเที่ยวใน จ.พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพฯ ให้ได้ตามจำนวนเดิม เพื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั่วโลก

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเน้นใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะเป็นจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ที่ไทยเป็นฐานการผลิตถึง 60% จากทั่วโลก ส่วนแนวนโยบายที่ชัดเจนนั้น จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) อีกครั้ง

นายวีระพงษ์ กล่าวถึงความพร้อมด้านการเงินที่ไทยใช้ในการฟื้นฟูภาคต่างๆ หลังจากน้ำท่วมว่า จากการเดินทางไปแต่ละประเทศนั้น ไทยได้ส่งสัญญาณไปแล้วว่ามีความพร้อมและมีกำลังทางด้านการเงินเพียงพอที่จะช่วยเหลือตัวเอง แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องกู้ยืมเงินจากต่างประเทศจริง ไทยเองก็มีหลักประกันที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ประเทศผู้กู้ได้ ทั้งเงินบาท เงินดอลลาร์ หรือทุนสำรองระหว่างประเทศ

"เราให้สัญญาณกับทั่วโลกว่าเรามีเงิน ประเทศไทยมีกำลังด้านการเงินเพียงพอที่จะลงทุนช่วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจากเงินบาท เงินดอลลาร์ หรือทุนสำรอง ซึ่งแม้กระทั่งรัฐบาลญี่ปุ่นก็อยากให้กู้" ประธาน กยอ.กล่าว พร้อมระบุว่า จากล่าสุดที่ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้รับคำยืนยันจากบริษัทญี่ปุ่นที่มาลงทุนในไทยว่ายังเชื่อมั่นที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตต่อไป

นอกจากนี้ ตนยังพบประธานบริษัทประกันภัยสามแห่งที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่นเช่น มิตซุยซูมิโตโม,โตเกียวมารีน,ซัมโป สามบริษัทนี้พูดว่าดีใจที่ตนไปอังกฤษและชี้แจงกับบริษัทรอยส์ ออฟลอนดอน ซึ่งสนับสนุนและยืนยันว่าจะคงธุรกิจในไทยต่อไปและบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะไทยมีประสบการณ์นี้น้อยกว่า ทางญี่ปุ่นทราบเรื่องแล้วจึงเบาใจไปครึ่งแล้วว่าตนไปปลายทางแล้วค่อยมาญี่ปุ่น โดยสามบริษัทนี้ยืนยันว่าจะทำธุรกิจในไทยต่อไป

สำหรับสิ่งที่ญี่ปุ่นกังวลและถามตน คือ มีเงินและความรู้แก้ปัญหานี้หรือไม่ ตนตอบไปว่าเรามีทั้งความรู้และเงิน เหลือเพียงความตั้งใจและประสานงานในด้านต่างๆ ตนบอกไปอีกว่าไทยนั้นไม่ได้มีปัญหาน้ำท่วมมาก แต่หน่วยงานมีหน้าที่หาและกักเก็บน้ำไว้ให้ประชาชนและเกษตรกรไว้ใช้ ทัศนคติจึงมุ่งไปยังหาและกักเก็บน้ำ โดยไม่มีความเชี่ยวชาญด้านระบายน้ำ เมื่อภูมิอากาศโลกเปลี่ยนไปโดยเป็นที่ยอมรับกัน เราต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ในด้านบริหารจัดการน้ำ ไม่ใช่หาและเก็บน้ำอย่างเดียว

นายวีรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการต่อสัญญาประกันในปีต่อๆไป ปีแรกอาจติดขัดบ้างแต่ปีต่อไปจะสะดวก แต่ราคาเบี้ยประกันภัยนั้นเป็นเรื่องที่ต้องตกลงกันเป็นรายๆไปว่าจะปรับเบี้ยประกันขึ้นเท่าใด ยืนยันว่าจะไม่มีบริษัทประกันภัยของต่างประเทศถอนตัวจากไทยเว้นแต่ฝรั่งเศสเพียงหนึ่งบริษัทเท่านั้น และแต่เดิมนั้นจะมีการทำประกันภัยในก้อนเดียวกัน

"จากนี้จะมีการแยกทำประกันอุทกภัยออกมา คือเจรจาเฉพาะการประกันตรงนี้ มันจะง่าย ส่วนประกันด้านอื่นๆจะคงไว้เช่นเดิม ซึ่งตนไปพบนสพ.นิคเคอิกชินบุนและสำนักข่าวบลูมเบิร์ก โดยตนระบุไปตามที่กล่าวไว้ข้างต้นและน่าจะเป็นข่าวออกไปทั่วโลกแล้ว ว่ารัฐบาลไทยให้ความมั่นใจและเอาใจใส่ด้านการประกันภัย และจากนี้ตนต้องคุมงานที่ให้คำสัญญาว่าจะซ่อม สร้าง เสริมในสิ่งที่มีอยู่แล้ว"

โดยในบ่ายวันนี้เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยเพิ่งมาพบกับตนและหารือเรื่องน้ำ โดยเนเธอร์แลนด์มีความรู้เรื่องน้ำมากและรัฐบาลเนเธอร์แลนด์พร้อมเปิดสาย 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงยินดีที่จะช่วยเหลือไทยทางกำลังคน เทคนิค และยังเห็นพ้องแนวทางการปัญหาน้ำท่วมเช่นเดียวกับแนวทางที่ไจกาศึกษาไว้แล้ว เพราะถูกต้อง สมเหตุผล ตนกล่าวขอบคุณและยินดีรับความช่วยเหลือทางความคิดและโอกาสจากมิตรประเทศ เพราะนานๆครั้งไทยจะมีประสบการณ์แบบนี้ขึ้น

ส่วนกรณีการรับประกันภัยความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นายวีรพงษ์ กล่าวว่า ได้ไปทำความเข้าใจกับบริษัทรับประกันภัยต่อ ทั้งของประเทศอังกฤษและญี่ปุ่น โดยได้รับคำยืนยันจากบริษัทประกันภัยต่างๆ ว่ายังพร้อมที่จะรับประกัน แต่ยอมรับว่าปีแรกหลังจากที่ประสบอุทกภัยนั้น อาจจะมีการคิดเบี้ยประกันหรือเพิ่มเงื่อนไขต่างๆ มากขึ้น และอาจจำเป็นต้องแยกประเภทของการรับทำประกันจากอุทกภัยออกมาไว้อีกเป็นการเฉพาะ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันในรายละเอียดระหว่างบริษัทประกันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น