xs
xsm
sm
md
lg

“พิชัย” แจงแผนเคลมค่าเสียหายก๊าซรั่วแสนล้านในอินโดฯ แนะ ปตท.เล่นบทจริงใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.พลังงาน แจงผลเจรจาไกล่เกลี่ย แหล่งก๊าซมอนทารา “ปตท.สผ.” รั่วกลางทะเลอินโดฯ คาด แนวโน้มจบด้วยดี หลังนายกฯ บินหารือ ย้ำ ไทยแสดงจุดยืนในลักษณะประนีประนอม พร้อมแนะกลุ่ม ปตท.ควรยอมรับ และแสดงความรับผิดชอบ เพื่อให้การเจรจามีลักษณะเป็นมิตร ทำให้สามารถหาข้อสรุปได้โดยไม่ต้องฟ้องศาลเรียก 1 แสนล้าน และไม่ต้องยืนอยู่บนความเสี่ยงที่จะถูกยึดใบอนุญาต

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายแหล่งก๊าซมอนทาราในอินโดนีเซีย ของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.เกิดการรั่วไหลจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในน่านน้ำอินโดนีเซีย และอาจมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกว่า 1 แสนล้านบาทนั้น ซึ่งในการเดินทางเยือนประเทศอินโดนีเซียของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการหารือถึงการเรียกร้องค่าเสียหายของทางการอินโดนีเซียต่อกรณีดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ การเจรจาเป็นไปด้วยดี ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม (CSR) โดยการช่วยเหลือชาวประมงและชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งถูกระบุว่า ได้รับผลกระทบ แม้ว่าขณะนี้ข้อกล่าวหาดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยมั่นใจว่าจะหาทางออกเพื่อให้ได้ข้อยุติก่อนที่จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท

นอกจากนั้น ในโอกาสการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ตนเองยังได้มีการเจรจากับรัฐมนตรี และตัวแทนจากประเทศอินโดนีเซียในกรณีกรณีแหล่งมอนทารา ซึ่งรัฐบาลไทยเห็นว่าน่าจะมีการเจรจาในลักษณะประนีประนอมกัน โดยทาง ปตท.สผ.ควรจะแสดงความรับผิดชอบเหตุการณ์รั่วไหลของคอนเดทเสทจากแหล่งมอนทาราไปก่อน และทำกิจกรรม CSR ขณะที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์รั่วไหลดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซียหรือไม่ก็ต้องดำเนินการต่อไป

“เราต้องยอมรับก่อนว่า มอนทารามีคอนเดนเสทรั่วไหล การยอมรับต้นเหตุจะทำให้การเจรจาเป็นไปในรูปแบบฉันท์มิตร และจะทำให้สามารถหาข้อสรุปได้โดยไม่ต้องฟ้องศาล และไม่ต้องยืนอยู่บนความเสี่ยงที่จะถูกยึดใบอนุญาต รวมถึงการพัฒนาแหล่งอื่นๆ เพราะทาง ปตท.และประเทศไทย ก็มีการทำธุรกิจพลังงานกับอินโดนีเซียจำนวนมาก”

นอกจากนี้ ทางการไทยและอินโดนีเซียยังได้พูดคุยถึงความร่วมมือในการพัฒนาแหล่งนาทูน่าของอินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้หยุดชะงักไปกว่า 10 ปี แต่เชื่อว่า การที่เป็นประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันและรัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จะช่วยให้การเจรจาข้อตกลงมีความคืบหน้ามากขึ้น แม้ว่าการพัฒนาแหล่งนาทูน่าจะมีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง แต่จากราคาน้ำมันในระดับปัจจุบันเชื่อว่าการพัฒนาแหล่งดังกล่าวจะคุ้มค่ากับการลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น