xs
xsm
sm
md
lg

ธปท. กางมติบอร์ด กนง. แจงมุมมอง ศก.โลกเสี่ยง ส่งสัญญาณทิศทางเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหาร ธปท. แจงผลการประชุม กนง. ครั้งล่าสุด เปิดรายละเอียดมติบอร์ด 5:2 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เนื่องจากประเมิน ศก.โลก ยังมีความเสี่ยง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ ยังมีทิศทางสูงขึ้นในอัตราเร่งระยะต่อไป แต่อาจชะลอช่วงปลายปี

มีรายงานข่าวว่า วันนี้ นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไปเพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญคือคณะกรรมการฯ ประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศอุตสาหกรรมหลักมีความเสี่ยงมากขึ้น จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด เศรษฐกิจของประเทศหลักในยุโรปเริ่มขยายตัวชะลอลงบ้าง แต่คาดว่าเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียจะสามารถรองรับผลกระทบ

จากการชะลอตัวดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง จากแรงขับเคลื่อนของอุปสงค์ในประเทศและภาคการส่งออกที่มีความเข้มแข็งและปรับตัวได้ดี นอกจากนี้ ฐานะด้านการเงินการคลังก็ยังอยู่ในวิสัยที่จะดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้หากจำเป็น

คณะกรรมการฯ ประเมินว่า เศรษฐกิจในประเทศอุตสาหกรรมหลักที่ชะลอลง จะส่งผลต่อการส่งออกของไทยบ้าง โดยผลกระทบน่าจะบรรเทาลงจากการค้าภายในภูมิภาคเอเชียและการกระจาย การส่งออกไปตลาดใหม่ๆ ที่มีมากขึ้น ส่วนการบริโภคและการลงทุนในประเทศคาดว่าจะยังเติบโตได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะการจ้างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้น ความต้องการสินเชื่อที่ยังขยายตัวได้ดี รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป

สำหรับแรงกดดันเงินเฟ้อ แม้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกเริ่มชะลอลง แต่อุปสงค์ ในประเทศที่เติบโตดีและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ยังเอื้อให้แรงกดดันด้านราคามีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชนเร่งตัวขึ้นด้วย คณะกรรมการฯ ประเมินว่า แม้ความเสี่ยงของการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสูงขึ้นจากการประชุมครั้งที่แล้ว เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น แต่ในภาพรวม เศรษฐกิจไทยยังมีแรงขับเคลื่อนให้ขยายตัวได้ ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในอนาคตก็สูงขึ้นเช่นกัน

ประกอบกับระดับ อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่าการปรับอัตราดอกเบี้ย นโยบายให้เข้าใกล้ระดับสมดุลมากขึ้น เพื่อดูแลแรงกดดันเงินเฟ้อในอนาคตยังเป็นนโยบายที่เหมาะสม จึงมีมติ 5 ต่อ 2 ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 3.50 ต่อปี

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายที่เหมาะสม เพื่อดูแลให้เศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตได้ต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น