ผู้บริหาร TF แจงยอดขาย "มาม่า" เพิ่มขึ้น แต่กำไรลดลง เพราะต้นทุนพุ่ง ทั้งแป้งสาลีและน้ำมันปาล์ม เตรียมลงทุนตั้ง รง.ผลิตเอง ตามนโยบายที่ไม่เน้นการขึ้นราคา แต่จะใช้วิธีลดทุนทุนแทน
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TF ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา "มาม่า" เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงาน โดยยอมรับว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้ลดลงจากปีก่อน แม้จะเชื่อว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 10% จากปี 2553 บริษัทมีรายได้รวม 8 พันล้านบาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักปรับเพิ่มขึ้นทั้งแป้งสาลีและน้ำมันปาล์ม
ทั้งนี้ แป้งสาลีที่เป็นวัตถุดิบหลักราคาสูงขึ้น 50% ซึ่งราคาแป้งสาลีจาก 300 บาทต่อกระสอบ เพิ่มเป็น 450 บาทต่อกระสอบ ซึ่งแป้งสาลีเป็นวัตุดิบหลัก 40% ในกระบวนการผลิต ส่วนน้ำมันปาล์มปรับขึ้นต่อเนื่อง จากปี 2553 ราคาเฉลี่ย 29 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ขณะที่เดือน มกราคม 2554 ราคาพุ่งไป 68 บาทต่อ กก. ทำให้เดือนเดียวบริษัทขาดทุนไป 70 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มจะค่อยๆ ปรับตัวลดลง หลังจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ 40-42 บาทต่อกก. แต่ที่มาเลเซียราคาลงไปที่ 38 บาทต่อ กก.แล้ว ส่วนในแง่ของยอดขายในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง โดย 5 เดือนแรกยอดขายเติบโตได้แล้ว 9.9% ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ 50% ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากมาม่าคัพที่ 20% มาม่าซอง 80% ซึ่งมาม่าคัพมีอัตราการเติบโตประมาณ 20% ถือว่าสูงกว่าภาพรวมตลาด พร้อมตั้งเป้าว่าใน 4-5 ปี ข้างหน้าจะมีมาม่าคัพ 40% มาม่าซอง 60% ขึ้นอยู่กำลังซื้อและรายได้ของประชากร
นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า มาม่าไม่ขึ้นราคาขาย เพราะเพิ่มภาระผู้บริโภค โดยจะใช้วิธีลดต้นทุนแทน บริษัทศึกษาการสร้างโรงงานผลิตแป้งสาลี คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2556 โดยร่วมทุนกับ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ PB ถือหุ้น 10% และบริษัท คอรี่-กลอรี่ ฟลาวมิลล์ จำกัด ถือหุ้น 30% ซึ่งการมีพันธมิตรเป็นการกระจายความเสี่ยงกำไร ชดเชยต้นทุน และประหยัดค่าขนส่ง ซึ่งจะตั้งโรงงานใหม่ภายในโรงงานผลิตมาม่า
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะสร้างโรงงานน้ำมันปาล์มด้วย คาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะลงทุนตั้งแต่การสกัดหรือกลั่น รวมถึงจังหวะเวลาในการลงทุนที่เหมาะสม เพราะช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีปัญหาขาดแคลนวัตุดิบน้ำมันปาล์มทำให้การผลิตชะงักไป
สำหรับแผนในปีนี้ บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตด้วยการลงทุนซื้อเครื่องจักรผลิตมาม่าคัพอีก 2 เครื่อง ได้รับมอบปีนี้ 1 เครื่อง ปีหน้าอีก 1 เครื่อง และเครื่องผลิตมาม่าซอง 5 เครื่อง รับมอบปีนี้ 2 เครื่อง ปีหน้า 3 เครื่อง กำลังการผลิตมาม่าซอง รวมส่งออกด้วย 6 ล้านแพ็คต่อวัน ปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านแพคต่อวัน และปี 2556 เพิ่มเป็น 8 ล้านแพคต่อวัน