"สหพัฒน์" ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่รอบ 20 ปี เจ้าสัว "บุญชัย" เผยโครงสร้างใหม่ ตั้งทีมพิเศษดูแล "มาม่า" ครบวงจร เตรียมทุ่มหนัก 500 ล้านบาท สร้างศูนย์กระจายสินค้า ซื้อรถขนส่งเพิ่ม พร้อมผุด รง. น้ำมันปาล์ม-แป้งสาลี ลดความเสี่ยงต้นทุนวัตดุถิบพุ่ง
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ทำตลาดและกระจายสินค้าอุปโภค-บริโภค เปิดเผยว่า ภายหลังจากนางเพ็ญนภา ธนสารศิลป์ อดีตผู้บริหารของสหพัฒน์ฯ ได้ยื่นใบลาออกเพื่อแยกไปตั้งบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าใหม่ บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการด้านการตลาด (มาร์เก็ตติ้ง คอมมิตตี) ขึ้นมา เพื่อดูแลและบริหารงบประมาณทำตลาดสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า" โดยเฉพาะ ภายใต้งบการทำกิจกรรมการตลาดปีละประมาณ 800-900 ล้านบาท ซึ่งการปรับโครงสร้างดังกล่าวในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี
สำหรับคณะกรรมการใหม่ชุดดังกล่าว ประกอบด้วยคนรุ่นใหม่ของบริษัทในเครือสหกรุ๊ป ได้แก่ นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัท บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด , นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ สหพัฒน์ และนางชัยลดา ตันติเวชกุล กรรมการบริษัทฟาร์อีสท์ ดีดีบี จำกัด
โดยทีมพิเศษที่ตั้งขึ้นมานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวางแผนกิจกรรมและบริหารงบประมาณการทำตลาดมาม่า ให้มีประสิทธิภาพและนำไปสู่ผลกำไรได้มากที่สุด จากเดิมที่บริษัทไทย เพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) จะดูแลเฉพาะภาคการผลิตสินค้าเท่านั้น และสอดรับกับภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แข่งขันสูงในปัจจุบัน
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 นี้ เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะใช้งบลงทุนอีกกว่า 500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบในการสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ซึ่งเป็นของบริษัทเองจากเดิมจะใช้รูปแบบเช่า
“การที่บริษัทหันมาสร้างศูนย์กระจายสินค้าเป็นของตัวเอง ก็เพราะว่าช่วงระยะหลังเริ่มมีปัญหาการคิดค่าขนส่งต่อชิ้นที่แพงขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ ด้วยการสร้างศูนย์กระจายสินค้าและรถขนส่งสินค้าเองเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งสินค้าที่บริษัทรับจัดจำหน่ายยังคงเป็นสินค้าในเครือ 90% และสินค้านอกเครือ 10%”
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจออกมาในรูปแบบดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทน่าจะมีรายได้อยู่ที่ 25,400 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 15% หรือจาก 23,000 ล้านบาท
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า" เปิดเผยว่า ในปี 2554-2555 บริษัทคาดใช้งบไม่ต่ำกว่า 700-800 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตมาม่าแบบบรรจุซองและแบบถ้วย เพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านแพ็กต่อวัน ในปีหน้า และจะเพิ่มเป็น 8 ล้านแพ็กต่อวัน และในปี 2556 จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 6 ล้านแพ็กต่อวัน เพื่อรองรับการเติบโต
ทั้งนี้ บริษัทยังจะตรึงราคาเดิมสินค้ามาม่าไว้ พร้อมวางแผนธุรกิจเพื่อรองรับการบริหารต้นทุนในภาพรวมระยะยาว โดยวางงบราว 600 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานผลิตแป้งสาลี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงงานมาม่า เพื่อป้อนวัตถุดิบได้ทันที และลดขั้นตอนการขนส่งสินค้า รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มของบริษัทเอง ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ผลผลิตปาล์มจากสวน ซึ่งบริษัทจะไม่เข้ายุ่งในส่วนนี้, 2 มีโรงงานผลิตลักษณะบีบผลปาล์ม และ 3 โรงงานแบบกลั่น (รีฟายน์) คาดเห็นความชัดเจนใน 2 ปีนี้ ใช้งบลงทุนระยะแรกราว 100 ล้านบาท
