xs
xsm
sm
md
lg

สหพัฒน์ทุ่มหมื่นล.รุกท่องเที่ยว แพนเอเชียรื้อแผนล้างขาดทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือสหพัฒน์ แตกไลน์ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการครั้งแรกในรอบ 60 ปี ผุดโครงการคอมเพล็กซ์ ซิตี้ที่ ศรีราชา มูลค่าโครงการ 1 หมื่นล้านบาท ดึงนักลงทุนญี่ปุ่นร่วมทุนหวัง 10 ปีแล้วเสร็จ ด้านแพนเอเชียรื้อโครงสร้างครั้งใหญ่หวังมีกำไรปีแรก หลังขาดทุน 2 ปี ลดการพึ่งพารับจ้างผลิต มุ่งสร้างแบรนด์ตัวเอง สิ้นปีนี้โต 30% กวาดรายได้ 3,000 ล้านบาท

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค กล่าวว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจเครือสหพัฒน์ วางแผนขยายธุรกิจที่มีความหลากหลายนอกเหนือจากทำธุรกิจอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ล่าสุดแตกไลน์สู่การท่องเที่ยวและบริการเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี ผุดโครงการเจแปนิสทาวน์ หรือคอมเพล็กซ์ ซิตี้ บนที่ 600 ไร่ ที่ ศรีราชา ในจังหวัดชลบุรี มีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักเข้าประเทศในอันดับต้นๆ

ทั้งนี้บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จะเป็นบริษัทลงทุนโครงการเจแปนนิสทาวน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหาผู้ร่วมทุนจากประเทศเทศญี่ปุ่นกว่า 10 ราย ซึ่งภายในโครงการจะมีแหล่งท่องเที่ยวตามรอยวัฒนธรรมญี่ปุ่น ย่านช้อปปิ้ง อาหาร สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น โดยวางเป้าหมายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของศรีราชา การลงทุนแบ่งเป็น 3 เฟส คาดว่าเฟสแรกจะเริ่ม 1ปีนับจากนี้ และคาดว่า 10 ปีจะโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จ และก้าวสู่การเป็นเจแปนนิสทาวน์ หรือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับโกเบและโยโกฮาม่า

***ผุดเจแปนนิสทาวน์เรียกการลงทุน***
นายบุณยสิทธิ์ กล่าวว่า จากการศึกษาตลาดท่องเที่ยวและบริการในประเทศไทย พบว่า มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในไทยร่วม 3-4 หมื่นคน และในเฉพาะศรีราชา 4,000 คน คนไทยยังชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทั้งการเดินทางท่องเที่ยว การรับประทานอาหารญี่ปุ่น โดยมั่นใจว่าคอมเพล็กซ์ ซิตี้ จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และเปรียบเทียบว่าในอนาคตจะกลายเป็นเจแปนนิสทาวน์ เมืองไทย หรือเสมือนย่านเยาวราช ที่กลายเป็นไชน่าทาวน์ เมืองไทย

“แนวทางการขยายธุรกิจเราเน้นให้มีความสอดคล้องกันหรือสามารถต่อยอดร่วมกันได้ และล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายสู่ธุรกิจร้านขายยาสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีจำหน่ายสินค้าหลากหลายนอกจากยา โดยภายในงานสหกรุ๊ป แฟร์ ครั้งที่ 15 มีนักลงทุนเข้ามาร่วมดูงาน 7-8 ราย และดูงานที่โรงงานศรีราชาด้วย ”

***ชี้หลังเลือกตั้งเศรษฐกิจโตพรวด***
นายบุณยสิทธิ์ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่การเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวดี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด จะได้เข้ามาจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม เนื่องจากพิจารณาจากนโยบายการหาเสียงของแต่ละพรรคแล้วมีแนวทางที่ดี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการ คือ ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลงจาก 31 บาท เป็น 34 บาท ซึ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าได้ จะทำให้ธุรกิจส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมไปถึงนโยบายต่างประเทศต้องมีความชัดเจน ลดความขัดแย้งและสร้างความปรองดองกับประเทศเพื่อนบ้าน

***แพนเอเชียรื้อโครงสร้างหวังกำไรปีแรก
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มรองเท้าของเครือสหพัฒน์ ได้มีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยเฉพาะบริษัท แพนเอเชียฟุตแวร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งตนเองได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลในส่วนของบริษัท แพนเอเชียฟุตแวร์ จำกัด (มหาชน) ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา แทนนายณรงค์ โชควัฒนา เนื่องจากบริษัทขาดทุนต่อเนื่องมา 2 ปี หรือราว 1,000 ล้านบาท หลังจากไนกี้ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศจีน และเวียดนาม ทำให้สูญเสียรายได้จากไนกี้ในสัดส่วนถึง 80-90%

“ที่ผ่านมาแก้ปัญหา โดยการหาออร์เดอร์จากลูกค้ารายใหม่ ซึ่งปัจจุบันเริ่มทยอยเข้ามาต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถทดแทนสัดส่วนรายได้ ที่ขาดหายไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับปรุงระบบการผลิต และระบบการทำงานต่างๆ ในโรงงาน ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ถึง 50% และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้รายได้เดือนมิถุนายนมีกำไรครั้งแรกรอบ 2ปี”

การปรับโครงสร้างในบริษัทแพนเอเชียฟุตแวร์ได้ดำเนินการแล้ว 80-90% ได้ควบรวมบริษัทย่อยในเครือซึ่งเป็นโรงงานต่างๆ ให้เล็กลง จากเดิมมีกว่า 20 บริษัท ลดเหลือกว่า 10 บริษัท คาดว่าจะปรับโครงสร้างสมบูรณ์ในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันยังมีการแยกบริษัทแพนเอเชียฯ และบางกอกรับเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น การถือหุ้นไขว้กัน หรือธุรกรรมทางการเงิน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบถึงกัน ในกรณีที่บริษัทหนึ่งประสบปัญหา ขณะที่บริษัท บางกอกรับเบอร์ ก็จะมีการปรับโครงสร้างเช่นเดียวกัน

นายบุญชัย กล่าวว่า บริษัทมีแนวทางลดพึ่งพาการรับจ้างผลิต และหันมาสร้างแบรนด์ของตัวเอง และยังเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ จากปัจจุบันเป็นสัดส่วนรองเท้าฟุตบอลถึง 50% นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดช็อปแพน เพื่อสร้างแบรนด์อิมเมจ โดยอาศัยช่องทางของฮิสแอนด์เฮอร์ และจะมีการเปิดแบรนด์ใหม่ของบริษัทนอกเหนือจากแพนอีก 1 แบรนด์ภายใน 1 ปีข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น