xs
xsm
sm
md
lg

ราคาบ้านล็อตใหม่ถีบตัวสูง รับวัสดุก่อสร้าง-ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบอินเทอร์เน็ต
แนวโน้มบ้านล็อตใหม่แพงขึ้น หลังต้นทุนขนส่งและราคาวัสดุถีบตัวสูง โดยเหล็กปรับราคาขึ้น 30% ส่วนปูนซีเมนต์เพิ่ม 20% ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้น ซึ่งประเมินว่า หากดอกเบี้ยเพิ่ม 1% ผู้ซื้อต้องผ่อนชำระเพิ่ม 6%

วันนี้ (24 มี.ค.) นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ราคาขายบ้านล็อตใหม่ในเดือน มิ.ย.นี้ มีโอกาสปรับสูงขึ้น จากสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบียยังยืดเยื้อ อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นต้นทุนภาคการขนส่ง และถือเป็นต้นทุนทางอ้อมต่อราคาวัสดุก่อสร้าง ที่เริ่มปรับขึ้นหลายรายการ เช่น เหล็กที่ปรับราคาแล้ว 30% ปูนซีเมนต์ 20% ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของ ธปท.จะส่งผลให้ผู้ซื้อต้องแบกรับภาระการผ่อนชำระเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่า หากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% ผู้ซื้อต้องผ่อนชำระเพิ่ม 6%

“ราคาบ้านที่จะออกมาใหม่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นแน่ เพราะวัสดุก่อสร้างมันเริ่มปรับราคาขึ้น ประกอบกับลิเบียยังยืดเยื้อถึงเดือน มิ.ย.ก็อาจจะเป็นแรงส่งให้ต้องปรับราคาขึ้นได้ หรือช่วงนี้อาจจะเห็นบางโครงการเริ่มลดโปรโมชั่นลงบ้าง การลดโปรโมชันลงก็เหมือนกับการขึ้นราคาแล้ว ส่วนเรื่องของดอกเบี้ยนโยบายตอนนี้ก็เป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ถือว่ายังเป็นปัจจัยบวกต่อ แต่หากปรับขึ้นมาก อาจส่งผลให้ผู้กู้บ้านต้องรับภาระเพิ่มขึ้น 6%”

ด้าน นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพ สถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.ยังไม่มีมาตรการดูแลอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมแน่นอน หลังจากที่ ธปท.ได้ออกมาตรการกำหนดอัตราส่วนต่อเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน เพื่อกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือ แอลทีวี เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะเกิดปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ธปท.เชื่อว่า มาตรการดังกล่าวมีความเหมาะสม และไม่จำเป็นต้องยกเลิกมาตรการดังกล่าว เพราะมาตรการกำกับดูแลสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ เป็นการดูแลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ร้อนแรงเกินไป ซึ่งหลังจากออกมาตรการมาระยะหนึ่ง การก่อสร้างโครงการใหม่ และยอดการจำหน่ายที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียมมีความสมดุลมากขึ้น

ส่วนการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 2.50% คาดว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการผ่อนชำระของผู้กู้ เพราะจากการสอบถามธนาคารพาณิชย์ พบว่า ผู้กู้สามารถรับภาระดอกเบี้ยหากปรับขึ้น 1-2% ได้

ขณะที่ นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่า ในปีนี้ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังขยายตัวต่อเนื่อง ตามภาวการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้ บริษัทเห็นว่าขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณฟองสบู่แตกในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่เริ่มเห็นการเก็งกำไรอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการก่อสร้างที่อยู่อาศัยถึงแสนหน่วยที่เปิดตัวจากปีที่ผ่านมา อาจส่งผลให้เกิดสภาวะล้นตลาด และทำให้ตลาดกลายเป็นช่วงตกต่ำในที่สุด

สำหรับ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง กล่าวว่า ปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังขยายตัวต่อเนื่อง เพราะที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัย 4 ที่ผู้บริโภคต้องการ ขณะที่รัฐบาลจะเร่งพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยจะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น การพัฒนาที่อยู่อาศัยสาธารณูปโภคท้องถิ่น การพัฒนาระบบขนส่งมวลชน จัดสรรงบประมาณพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้า 4 สาย คือ สายสีม่วง สายสีชมพู สายสีส้ม และสายสีเขียว มูลค่าลงทุน 165,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลเคยออกมาตรการทางภาษีอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ เช่น ภาษีการโอน การจดจำนอง ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้ดี และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ คาดว่า จะสามารถสรุปได้ชัดเจนในช่วงเดือน มิ.ย.54 ก่อนจะเสนอให้ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่า หลังจากเลือกตั้งแล้วรัฐบาลชุดใหม่น่าจะสามารถสานต่อโครงสร้างภาษีใหม่ได้ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น