xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เชื่อ “เจ๊มิ่ง-เหลิม” ถูกเขี่ยจากบัญชีผู้นำ พท. ไม่สังฆกรรมม็อบแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์
โฆษก ปชป.ชี้ผลอภิปรายไม่ไว้วางใจ พท.สะท้อนความขัดแย้งระหว่าง “เจ๊มิ่ง-เหลิม” เหตุถูกเขี่ยจากบัญชีผู้นำเพราะไม่ยอมร่วมม็อบแดง เร่งเดินหน้าวาระด่วนเพิ่มรายได้ประชาชน-ปรับโครงสร้างภาษีภาคอุตสาหกรรม

วันนี้ (20 มี.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยได้สะท้อนความขัดแย้งหลายอย่าง อาทิ ความขัดแย้งภายในพรรค ระหว่าง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ผู้นำการอภิปราย กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. รวมไปถึงเนื้อหาการอภิปรายที่มุ่งปมขัดแย้งทางการเมือง ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ทำให้กลายเป็นฉนวนที่ทำให้สังคมแตกแยก และอาจทำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่ปกติได้

“เป็นที่ชัดเจนว่าคุณมิ่งขวัญ กับ ร.ต.อ.เฉลิม จะไม่ถูกวางตัวเป็น ส.ส.สัดส่วน ลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย เพราะปฏิเสธสวมเสื้อแดงนำการชุมนุมนอกสภา ซึ่งผมเสียดายที่บุคคลที่มีความพร้อมใช้รัฐสภาขับเคลื่อนถูกตัดบทบาทการนำพรรคเพื่อไทย”

นพ.บุรณัชย์กล่าวอีกว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา พบว่าในประเด็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์นำเสนอมีความแตกต่างกันที่ชัดเจน ได้แก่ 1.เรื่องประกันรายได้เกษตรพรรคประชาธิปัตย์เน้นการประกันรายได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยระบุว่าจะใช้วิธีจำนำสินค้า 2.การแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง พรรคประชาธิปัตย์เน้นการแก้ไขปัญหาของแพงด้วยการเพิ่มรายได้ควบคู่กับปัญหาเงินเฟ้อ ส่วนพรรคเพื่อไทยระบุว่าจะเน้นเรื่องปรับค่าแรงก่อนแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ 3.ปัญหาค่าก๊าซภาคขนส่ง พรรคประชาธิปัตย์เน้นการตรึงราคาน้ำมันดีเซล และปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันเบนซิน เนื่องจากเห็นว่าผู้ใช้นำมันดีเซลเป็นผู้ที่ยากจนและต้องการช่วยเหลือคนที่จำเป็น ส่วนพรรคเพื่อไทยระบุว่าจะเลิกอุดหนุนน้ำมันดีเซล แก้ไขปัญหาด้านน้ำมันเบนซิน

นพ.บุรณัชย์กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ฝ่ายค้านไม่ยอมตรวจสอบนโยบายของรัฐบาล แต่กลับสร้างความแตกแยกและ ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์มาคุ้มครองแล้วสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น ทั้งนี้ ภาพรวมประชาชนยังให้โอกาสให้ทำงานต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกรณีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่โหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้หารือว่าจะขับนายสมเกียรติออกจากพรรคหรือไม่ ทั้งนี้ที่ไม่ได้ขับเพราะไม่ได้กลัวว่าจะแตกหักกลับกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากพรรคได้แยกแยะถึงการทำหน้าที่ของผู้แทนในสภาฯ

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า หลังจากที่รัฐบาลผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว เวลาที่เหลืออีก 6 สัปดาห์จะเป็นการเร่งดำเนินนโยบายในวาระเร่งด่วน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้สั่งให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคตรวจสอบข้อมูลรายได้ของประชาชนทั่วประเทศเพื่อนำมาเป็นแนวประกอบการทำนโยบาย ซึ่ง ส.ส.และสมาชิกพรรคจะนำข้อมูลที่ได้มาหารือในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ เบื้องต้นวาระเร่งด่วนที่ต้องทำ คือ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ด้วยการปรับค่าแรงให้ได้ 25 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 2 ปี และลดต้นทุนสินค้าแพง ด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกินมหภาค เบื้องต้นได้หรือกับสภาอุตสาหกรรมแล้ว เห็นว่าควรเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ด้วยการปรับโครงสร้างภาษีในส่วนของนิติบุคคล, ลดต้นทุนด้านการขนส่ง จากปัจจุบัน 19 เปอร์เซ็นต์ ให้เหลือต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์, ลดภาษีนำเข้าเครื่องจักร เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น