“อภิสิทธิ์” เตรียมเรียก “คกก.นโยบายข้าว” มาคุย หลังชาวนาโอดต้นทุนสูงขึ้น สู้ไม่ไหว โดยวันจันทร์นี้นัดประชุมถกหาทางช่วย ส่วนใช้เงินกองทุนน้ำมันอุดราคาดีเซล จนเงินหร่อยหรอ นายกฯจะทบทวนการตรึงราคาดีเซลที่จากเดิมจะอุ้มถึงเดือน เม.ย.ใหม่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (5 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 7 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมการประกันรายได้เกษตรกร เรื่องของราคาข้าว เนื่องจากต้นทุนที่ใช้คำนวณการกำหนดราคาข้าวได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรเป็นจำนวนมากว่า ต้นทุนได้เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นวันจันทร์จะมีการประชุมคณะกรรมนโยบายข้าวแห่งชาติ เพื่อจะเอาต้นทุนมาดู และตัวเลขเบื้องต้นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานมา ก็เห็นสมควรต้องมีการทบทวนการประกันราคาข้าว มาก-น้อยแค่ไหนวันจันทร์จะได้คำตอบ เพราะจะไปดูจากตัวเลขที่แท้จริง และจะมีการปรับหลักเกณฑ์อื่นหรือไม่อย่างไร ก็จะมีการพิจารณาวันจันทร์เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีการตรึงราคาน้ำมันดีเซล และสถานการณ์ของกองทุนน้ำมัน ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการร้องเรียนว่าสถานะของกองทุนได้รับผลกระทบเรื่องของการชดเชยราคาก๊าซ และเอ็นจีวี แต่บังเอิญเป็นการคำนวณในลักษณะที่นำเงินที่จะชดเชยไปจนถึงเดือนมิถุนายนมาหักจากกองทุนในขณะนี้ ซึ่งตนเห็นว่า คงจะต้องมาไล่ดูกันใหม่ว่า การที่จะคำนวณว่า สถานะกองทุนอยู่ตรงไหน ควรจะใช้หลักเกณฑ์ตัวเลข กรอบเวลาอย่างไร เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือว่า ในกรณีกองทุนน้ำมันไม่พอตามมาตรการเดิม รัฐบาลจะมีแนวทางอื่นอย่างไร เพราะฉะนั้นอยากจะเรียนว่า ในส่วนของเรื่องของการประกันรายได้ และราคาน้ำมันในวันจันทร์จะมีการประชุมเพื่อให้ได้ข้อยุติ
เมื่อถามว่า กองทุนน้ำจะสามารถตรึงราคาได้ถึงเดือนเมษาฯหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าน่าจะได้ เพราะขณะนี้มีการนำเอาตัวเลขไปพันกับเรื่องการชดเชยเรื่องก๊าซหุงต้ม จนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งตนจะขอรายละเอียดตัวเลขมาดู เพราะว่ามติเดิมคือตรึงถึงสิ้นเดือนเมษาฯ แต่ถ้าเงินกองทุนลดต่ำกว่าหมื่นล้าน ก็จะขอมาดูประเมินว่า จะต้องทำอย่างไร วางแผนกันล่วงหน้า เมื่อไปใช้วิธีการคำนวณแล้ว บอกว่า เงินกองทุนจะเหลือ 7 พันล้านบาท ตนก็จะนำมาดูแล ซึ่งเดี๋ยวจะได้คุยกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยไว้บ้างแล้ว ยังยืนยันว่า ยืนมติเดิมตรึงราคาน้ำมันดีเซลถึงเดือนเมษาฯ แต่เมื่อบอกว่าเงินกองทุนเหลือ 7 พันล้านบาทคงต้องมาคุยกัน