xs
xsm
sm
md
lg

“TMB” ตั้งเป้าปีนี้โต 10% หลังมองอัตรา ศก.ขยายตัวช่วยเอื้อระบบสินเชื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบอินเทอร์เน็ต
“TMB” ฟุ้ง ภาพรวมผลประกอบการปีก่อนโตถึง 65% โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต รวมถึงกำไรต่างๆ ที่ไม่ได้มาจากดอกเบี้ย ซึ่งปี 54 นี้ ได้ตั้งเป้าโตไว้ที่ 10% หลังมองอัตราการขยายตัวของ ศก.ไว้ 3.5-4.5% ทั้งนี้ ช่วยเอื้อสินเชื่อทั้งระบบได้ถึง 6-7%

วันนี้ (25 ม.ค.) นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) หรือ TMB กล่าวว่า จากการที่ธนาคารมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นลำดับซึ่งมีกำไรสุทธิในปี 2553 อยู่ที่ 3,202 ล้านบาท โดยเติบโตถึง 65% จาก ปี 2552 ซึ่งมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากการประกอบธุรกิจหลักของธนาคารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจ Bancassurance การจำหน่ายเงินกองทุน และกำไรจากการปริวรรตประกอบกับยังมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย และการตั้งสำรองลดลง เป็นต้น

“มองในแง่ดีกำไรดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าสินเชื่อในปี 2553 จะต่ำกว่าที่ตั้งไว้ แต่ก็แลกมาด้วยคุณภาพของสินเชื่อที่ดีขึ้น ส่วนการจ่ายปันผลนั้น จ่ายเลยก็ได้เพราะเรามีกำไรแล้วแต่ตามหลักการต้องรอความเห็นชอบจากคณะกรรมการธนาคาร ผู้ถือหุ้นด้วยว่าจะเห็นชอบหรือไม่” นายบุญทักษ์ กล่าว

สำหรับนโยบายในปี 2554 นั้น ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรวมเติบโตสูงกว่า 10% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 3-4 หมื่นล้านบาท หลังจากมองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 3.5-4.5% ซึ่งจะส่งผลให้สินเชื่อทั้งระบบขยายตัวได้ถึง 6-7% โดยธนาคารจะเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเพิ่มนวัตกรรมในสินค้ารูปแบบใหม่

โดยเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สินเชื่อขนาดใหญ่ประกอบกับขยายช่องทางจัดสรรลูกค้าไปตามกลุ่มเฉพาะภายหลังจากที่ธนาคารได้ปรับโครงสร้างลูกค้าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาทำให้ธนาคารเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น

“แบงก์ต้องการเพิ่มปริมาณ Trade Finance ให้เติบโตมากกว่า 50% และ เพิ่มจำนวนลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้นอีก 300-500 ราย ล่าสุด บิ๊กซีได้ให้แบงก์ทำหน้าที่ผู้จัดการระดมเงินกู้จำนวน 38,500 ล้านบาทเพื่อรองรับการเข้าซื้อกิจการในอนาคต” นายบุญทักษ์ กล่าว

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตั้งเป้าปรับลดลงต่อเนื่อง โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ NPL จะอยู่ที่ 7.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ในวิสัยทัศน์ที่ธนาคารสามารถจัดการเองได้ โดยไม่ต้องขายหนี้เน่าออกไปให้กับบริษัทอื่นเหมือนกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ตั้งเป้าเพิ่มผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) เป็น 14% ในปี 2557 โดย ROE ของธนาคารปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2553 เพิ่มเป็น 6.7%จาก 4% ในปี 2552 โดยส่วนใหญ่จะมองที่การเติบโตของสินเชื่อหรือกำไรเป็นหลัก แต่ TMB กลับมอง ROE เป็นปัจจัยหลักมากกว่าอย่างอื่น

ด้าน นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยมองเชิงบวกกับหุ้น TMB มากขึ้นเนื่องจากธนาคารมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่องตามนโยบายการเร่งปล่อยสินเชื่อ ทั้งนี้ ยังมีการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี,ผลประกอบการธุรกิจหลักดีขึ้นจากการเร่งปล่อยสินเชื่อและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิขยายตัว และอัตราการขยายตัวเฉลี่ยของกำไรในปี 2553-25 (CAGR) สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ 66%

ทั้งนี้ คาดว่า ปี 2554 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่4.5 พันล้านบาท อีกทั้งฝ่ายวิจัยอาจปรับเพิ่มประมาณการหาก TMB รายงานสินเชื่อหรือส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิสูงกว่าที่ได้ประมาณการไว้ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท มีอัปไซด์ประมาณมากกว่า 60%

ล่าสุด TMB รายงานกำไรไตรมาส 4/2553 ที่ 822 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 13% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39% ซึ่งผลประกอบการต่ำกว่าประมาณการ 10% (เนื่องจากตั้งสำรองสูงกว่าคาด) และสูงกว่าประมาณการตลาด 8%สำหรับกำไรปี 2553 เพิ่มก้าวกระโดด 65%จากปีก่อนอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท เป็นตามประมาณการที่วางไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น