หลัง “TMB” โชว์ประกอบผลกำไรไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา พบว่า อยู่ที่ 822 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ จึงสางผลต่อราคาหุ้นธนาคาร ด้านนักวิเคราะห์ แนะซื้อและขายคละกัน
วันนี้ (20 ม.ค.) บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ประเมินหุ้นธนาคารทหารไทย (TMB) หลังรายงานผลกำไร Q4/53 ที่ 822 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%QoQ และ 39%YoY สูงกว่าประมาณการตลาด 8% และมีกำไรปี 53 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดถึง 65%YoY อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารจะมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่องตามนโยบายการเร่งปล่อยสินเชื่อ และช่วงอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น พร้อมทั้งยังคงประมาณการกำไรป, 54 เท่าเดิมที่ 4.5 พันล้านบาท ซึ่งอาจจะปรับเพิ่มประมาณการหาก TMB รายงานสินเชื่อหรือส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิสูงกว่าประมาณการปัจจุบันของฝ่ายวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท เนื่องจาก 1.การบริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี 2.ผลประกอบการธุรกิจหลักดีขึ้นจากการเร่งปล่อยสินเชื่อและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิขยายตัว 3.อัตราการขยายตัวเฉลี่ยของกำไรในปี 53-55 (CAGR) สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ 66%
ด้าน บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า TMB มีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งในแง่ของแผนธุรกิจ โอกาสเติบโต ผลการดำเนินงานและคุณภาพสินทรัพย์ ประกอบกับโอกาสที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ แต่อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปัจจุบันมีการปรับตัวขึ้นมาสูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้ จากการเข้าซื้อเก็งกำไรตามข่าวต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ 1.9 เท่าของมูลค่าทางบัญชีปี 53 ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับ ROE ที่ยังอยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน ดังนี้ทางด้านปัจจัยพื้นฐานเรา แนะนำ “เต็มมูลค่า” มูลค่าที่เหมาะสมปี 54 ที่ 1.78 บาท/หุ้น อ้างอิงกับ 1.4 เท่าของมูลค่าทางบัญชีปี 54
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า แม้ผลประกอบการของธนาคารจะแข็งแกร่งใน Q4/53 แต่มาจากกำไรพิเศษถึง 831 ล้านบาท จากการกลับรายการตั้งสำรองเนื่องจากการโอน NPL กับ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) และกำไรจากการดำเนินงานก่อนการตั้งสำรอง (PPOP) ลดลง 5%YoY และ 10%QoQ ซึ่งผลประกอบการป, 53 ที่ออกมาจะเติบโตเกินคาด แต่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ฝ่ายวิเคราะห์แต่อย่างใด โดย RoE สำหรับปี 53 อยู่ที่ 6.6% เท่านั้น แต่หุ้นซื้อขายบน PBV ที่ 2.1 เท่า ซึ่งค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับธนาคารภายใต้การวิเคราะห์ของฝ่ายวิเคราะห์ แนะนำ “ขาย” ราคาเหมาะสม 1.70 บาท