ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB) ประกาศกำไรสุทธิปี 2553 มีระดับสูงที่ 24,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% จากปี 2552 โดยมาจากการขยายตัวทั้งจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและรายได้ที่เป็นดอกเบี้ย โดยใน 3 ไตรมาสแรกสินเชื่อมีการเติบโตเป็นลำดับ และเติบโตอย่างมากในไตรมาสที่ 4 ส่งผลให้สินเชื่อทั้งปีขยายตัวถึง 12.6% เทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่คุณภาพสินเชื่อมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างเด่นชัด สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.25% เทียบกับ 4.41% ณ สิ้นปี 2552 นับเป็นระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้กำไรสุทธิ
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ผลประกอบการที่ดีของธนาคารเกิดจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME และลูกค้าบุคคล แสดงให้เห็นถึงการเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศที่สามารถนำเสนอบริการทางการเงินที่ครบวงจรแก่ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม
"การขยายตัวของสินเชื่อในปี 2553 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสินเชื่อขยายตัวสูงถึง 12.6% เทียบกับปี 2552 การเติบโตของสินเชื่อในทุกกลุ่มธุรกิจหลักทั้งสาม ได้แก่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME และลูกค้าบุคคล ชี้ให้เห็นถึงผลสำเร็จในการดำเนินยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของธนาคาร"
ด้านคุณภาพสินทรัพย์มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 3.25% เทียบกับ 4.41% ณ สิ้นปี 2552 นับเป็นระดับต่ำสุดหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงมาอยู่ที่ 4,661 ล้านบาท (เทียบกับ 5,605 ล้านบาทในปี 2552) ขณะเดียวกัน อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 107.5% ณ สิ้นปี 2553 เทียบกับ 95.4% ณ สิ้นปี 2552
ทั้งนี้ การเติบโตของกำไรสุทธิเป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้นถึง 20.6% มาอยู่ที่ 32,655 ล้านบาท เทียบกับ 27,082 ล้านบาท ในปี 2552 โดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจของกลุ่มลูกค้าบุคคล ได้แก่ กองทุนรวม ธุรกิจบัตร Bancassurance ผลิตภัณฑ์และบริการทาง การเงินอื่นๆ รวมถึงรายได้จากการลงทุน ขณะเดียวกันรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น 6% ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของดอกเบี้ยจ่ายและการลดการกู้ยืมระยะสั้นของบริษัทในเครือ
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารพาณิชย์กล่าวว่า ปริมาณธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ผลกำไรสุทธิที่ดี ตลอดจนคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นฐานที่แข็งแกร่งของธนาคารในการเริ่มต้นธุรกิจของปี 2554 ซึ่งธนาคารหวังว่า ด้วยปัจจัยบวกข้างต้น จะทำให้ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อและบริการทางการเงินต่างๆ ได้ในระดับสูงและเป็นผู้นำตลาด นอกจากนี้ การสร้างความผูกพันให้เกิดกับลูกค้าและพนักงาน การมีธรรมาภิบาลในการทำธุรกิจ การดำเนินธุรกิจได้ตามยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่วางไว้ เป็นสิ่งที่ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารชั้นนำของประเทศที่มีความแตกต่างและโดดเด่นในตลาด
**TMBฮึดเข็นกำไรพุ่ง64%**
นายถนอมศักดิ์ โชติกประกาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB) แจ้งว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิประจำปี 2553 จำนวน 3,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิ 1,945 ล้านบาท จำนวน 1,257 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64%
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ผลประกอบการที่ดีของธนาคารเกิดจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME และลูกค้าบุคคล แสดงให้เห็นถึงการเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศที่สามารถนำเสนอบริการทางการเงินที่ครบวงจรแก่ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม
"การขยายตัวของสินเชื่อในปี 2553 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสินเชื่อขยายตัวสูงถึง 12.6% เทียบกับปี 2552 การเติบโตของสินเชื่อในทุกกลุ่มธุรกิจหลักทั้งสาม ได้แก่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME และลูกค้าบุคคล ชี้ให้เห็นถึงผลสำเร็จในการดำเนินยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของธนาคาร"
ด้านคุณภาพสินทรัพย์มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 3.25% เทียบกับ 4.41% ณ สิ้นปี 2552 นับเป็นระดับต่ำสุดหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงมาอยู่ที่ 4,661 ล้านบาท (เทียบกับ 5,605 ล้านบาทในปี 2552) ขณะเดียวกัน อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 107.5% ณ สิ้นปี 2553 เทียบกับ 95.4% ณ สิ้นปี 2552
ทั้งนี้ การเติบโตของกำไรสุทธิเป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้นถึง 20.6% มาอยู่ที่ 32,655 ล้านบาท เทียบกับ 27,082 ล้านบาท ในปี 2552 โดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจของกลุ่มลูกค้าบุคคล ได้แก่ กองทุนรวม ธุรกิจบัตร Bancassurance ผลิตภัณฑ์และบริการทาง การเงินอื่นๆ รวมถึงรายได้จากการลงทุน ขณะเดียวกันรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น 6% ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของดอกเบี้ยจ่ายและการลดการกู้ยืมระยะสั้นของบริษัทในเครือ
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารพาณิชย์กล่าวว่า ปริมาณธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ผลกำไรสุทธิที่ดี ตลอดจนคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นฐานที่แข็งแกร่งของธนาคารในการเริ่มต้นธุรกิจของปี 2554 ซึ่งธนาคารหวังว่า ด้วยปัจจัยบวกข้างต้น จะทำให้ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อและบริการทางการเงินต่างๆ ได้ในระดับสูงและเป็นผู้นำตลาด นอกจากนี้ การสร้างความผูกพันให้เกิดกับลูกค้าและพนักงาน การมีธรรมาภิบาลในการทำธุรกิจ การดำเนินธุรกิจได้ตามยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่วางไว้ เป็นสิ่งที่ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารชั้นนำของประเทศที่มีความแตกต่างและโดดเด่นในตลาด
**TMBฮึดเข็นกำไรพุ่ง64%**
นายถนอมศักดิ์ โชติกประกาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB) แจ้งว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิประจำปี 2553 จำนวน 3,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิ 1,945 ล้านบาท จำนวน 1,257 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64%