xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นชะตา “ปิคนิค” เมื่อดวลเดือด กับคนมีสี... (ตอนที่ 1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศึก 2 บริษัทแก๊ส เดินเกมชิงชัยชนะในแผนฟื้นฟูกิจการ ต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์และหลักฐานมาหักล้างกันอย่างถึงพริกถึงขิง หนำซ้ำยังมีการแอบอ้างคนมีสี...มากดดัน

สัปดาห์นี้ไม่ว่าหุ้นจะตกหรือขึ้น แต่สำหรับ บริิษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) ดูจะมีความหมายสำคัญยิ่งเพราจะมีการณ์ให้ชวนติดตามกัน ไล่ตั้งแต่วันอังคารที่ 25 ม.ค.ซึ่งศาลล้มละลายกลางจะนัดไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนหมายจับ อดีตผู้บริหาร บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด จากปมขัดแย้งที่เกี่ยวกันมานาน ตามมาด้วยวันที่ 27 ม.ค. ในการตัดสินชี้ขาดการยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการระหว่างแผนฟื้นฟูใหม่ของ PICNI และแผนฟื้นฟูกิจการที่เสนอโดยเวิลด์แก๊ส ซึ่งยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะออกหัวหรือก้อย

หลังจากเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ไม่สามารถตกลงกันได้ และมีเจ้าหนี้บางส่วนขอให้เลื่อนการประชุม เพื่อนำแผนฟื้นฟูกลับไปปรับปรุงแก้ไขตามที่เจ้าหนี้เสนอมาอีกครั้ง

หากมองภาพความจริงในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่แผนฟื้นฟูของบริษัทจะได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ กล่าวคือ ต้องมีจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ทุกกลุ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 มีมติยอมรับแผน จึงจะมีผลให้แผนฟื้นฟูกิจการของปิคนิคผ่านการยอมรับ ที่สำคัญ ปิคนิคยังมีคู่แข่งขันที่ประมาทไม่ได้ นั่นคือ อดีตบริษัทย่อยอย่าง“เวิลด์แก๊ส” ที่ยังมีปัญหาคาราคาซัง ถึงสิทธิอันชอบธรรมในความเป็นเจ้าของที่แท้จริง ร่วมแข่งขันด้วย

ล่าสุด ตอนนี้มีข่าวลือสะพัดไปทั่วว่า อดีตบริษัทย่อยซึ่งมีข้อพิพาททางคดีกันอยู่นี้ พยายามที่จะเสนอผลประโยชน์ให้กับกรรมการของสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของปิคนิค เพื่อให้มีมติไม่ยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการที่ปิคนิคเสนอ และแม้เรื่องดังกล่าวเป็นจริง และทางปิคนิคจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อเรื่องนี้ถึงที่สุด แต่ก็ใช่ว่าเรื่องต่างๆจะยุติลงง่ายๆ เพราะเบื้องหลังของบริษัทดังกล่าว มีคนมีสี....อยู่เบื้องหลัง ซึ่งมีทั้งสีกากี และสีเขียว

**เปิดปมขัดแย้งศึก 2 บริษัทแก๊ส

ที่ผ่านมา นอกจากเดินหน้าแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว ปิคนิค ยังต้องเผชิญปัญหาการเดินหน้าเอา เวิลด์แก๊สซึ่งเคยเป็นบริษัทย่อยกลับคืนมาเป็นของบริษัท พร้อมกับปัญหาในการรับมอบคืนคลังแก๊ส 2 แห่ง ได้แก่ คลังบางจะเกร็ง จ.สมุทรสงคราม และ คลังแก๊ส ที่จ.ลำปาง คืนจากเวิลด์แก๊สด้วย ….

การขัดขวางการเข้าไปบังคับคดีเพื่อส่งมอบคลังแก๊สเกิดขึ้น โดยมีการอ้างชื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ยศ พล.ต.ท.คนหนึ่ง มากดดัน และมีการขนบุคคลที่แต่งกายในลักษณะชุดทหารเข้ามาช่วยปิดกั้น จนนำไปสู่การยกเลิกประกันตัวชั่วคราว และการออกหมายจับผู้บริหารเวิลด์แก๊สอีกรอบ

ขณะที่ ในกระบวนการทางธุรกิจ ต่างฝ่ายต่างจ้องที่จะคว้าสมบัติของอีกฝ่ายมาเป็นของตน ฝ่ายปิคนิค ก็ต้องการนำเวิลด์แก๊สกลับมาเป็นของตน ตามสิทธิ์ใบหุ้นที่ถืออยู่ เพื่อช่วยขยายฐานและศักยภาพทางธุรกิจด้านเวิลด์แก๊ส ก็เดินเกมร่วมกับหนึ่งในเจ้าหนี้ จัดตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟู เพื่อเสนอแผนฟื้นฟูกิจการของปิคนิค โดยมีเงื่อนไขให้เจ้าหนี้ทุกรายได้ประโยชน์สูงสุดออกมาสู้

ปมความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ล้วนมาจากผลงานในอดีตของผู้บริหารชุดก่อน บมจ.ปิคนิค ที่ฝากทิ้งเอาไว้ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างต้องการซึ่งอำนาจตามสิทธิที่ตนเองอ้างถึง....ย่อมทำให้บทสรุปในเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะจบกันง่ายๆ ภายในระยะเวลาอันสั้น ไหนจะต้องมาเจอกับอำนาจและอิทธิพลที่ถูกนำมากล่าวอ้างและข่มขู่ด้วย ถึงแม้จะมีการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับเจ้ากรม ทบวงที่เกี่ยวข้อง ..แต่ก็ไม่มีสิ่งยืนยันและการันตีว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่....

ใหญ่....จนตำรวจถอย
กลับมาที่เรื่องของกลุ่มอำนาจที่กล่าวถึงข้างต้น ช่วงที่ผ่านมา บมจ.ปิคนิค ต้องสาละวนกับปัญหาคาราคาซังเรื่องในการพยายามเข้าครอบครองคลังแก๊สทั้ง 2 แห่งของตนเองกลับคืนมาจากเวิลด์แก๊ส ซึ่งมีฐานะเป็นผู้เช่าสถานที่และสินทรัพย์ต่างๆ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2549 และต้นปี 2551

ทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี หากปิคนิคไม่ประสบปัญหา จนต้องเดินหน้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยในวันที่ 29 ก.ค.52 ปิคนิคจึงบอกเลิกสัญญาเช่าคลังแก๊สที่บางจะเกร็ง ต่อมาถึง16ก.พ.53 ก็แจ้งการสิ้นสุดสัญญาเช่าคลังลำปางของเวิลด์แก๊ส เรื่องต่างๆ น่าจะเป็นไปตามนั้น แต่ความจริงคือ ยังไม่มีการส่งมอบคืนสินทรัพย์และพื้นที่คลังแก๊สทั้ง 2 มาสู่เจ้าของจริง

จนบริษัทต้องหันไปพึ่งศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอบังคับให้เวิลด์แก๊สยอมส่งมอบ แต่กลับเจอการยื่นคำคัดค้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งสั่งศาล พร้อมด้วยการเดินเกมยื่นอุทธรณ์คำสั่ง และคำร้องของทุเลาการบังคับคดี มีการส่งเจ้าพนักงานบังคับคดีเข้าไปจัดการ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จนมีการยื่นขอออกหมายจับกุมกรรมการของเวิลด์แก๊ส แต่จนแล้วจนรอด ศาลฎีกา ก็มีคำสั่งให้ทุเลาคดีในกรณีมีเหตุฉุกเฉินไว้ชั่วคราวจนถึง 30 พ.ย.53
เมื่อคำสั่งทุเลาสิ้นสุดลง ในที่สุด 1 ธ.ค.53 เจ้าพนักงานบังคับคดีจ.สมุทรสงคราม และจ.ลำปาง รายงานศาลล้มละลายกลางขอให้มีคำสั่งออกหมายจับกุมกรรมการของเวิลด์แก๊ส 3 ราย คือ นายพิศาล พุ่มพันธ์ม่วง, นายสง่า รัตนชาติชูชัย และนางสาวกฤติกา นรรัตน์ โดยศาลได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับกุมบุคคลทั้งสามในวันที่ 7 ธ.ค.53 และวัดถัดมากรรมการของเวิลด์แก๊สทั้ง 3 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งศาลก็มีคำสั่งอนุญาต

เหตุการณ์ที่น่าสนใจ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.53 เมื่อปิคนิค ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดี จ.สมุทรสงคราม จัดการให้บริษัทเข้าไปครอบครองคลังบางจะเกร็ง โดยรายละเอียดของเหตุการณ์ เริ่มขึ้น เมื่อปิคนิค ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปที่คลังบางจะเกร็ง และได้ขอกำลังตำรวจ สภอ.สมุทรสงครามไปสนับสนุนการส่งมอบคลัง ซึ่งช่วงแรกมีตำรวจชั้นประทวนไป 4 นาย ต่อมาตำรวจได้รับโทรศัพท์ และแจ้งกับผู้รับมอบอำนาจของ บมจ.ปิคนิค โดยอ้างว่า มีผู้ใหญ่ที่มียศ พล.ต.ท.คนหนึ่ง โทรศัพท์มาว่า “อย่ามายุ่ง” ทำให้ตำรวจถอนกำลังกลับไปหมด แม้จะเริ่มดำเนินการตัดลูกกุญแจเพื่อเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินแล้ว ต่อมาเมื่อเวลาประมาณเกือบ 15.00 น.กรรมการเวิลด์แก๊สได้เข้ามาขัดขวางการส่งมอบ และพนักงานของเวิลด์แก๊สก็ปฏิเสธการออกจากพื้นที่และส่งมอบคลัง

ผู้รับมอบอำนาจของปิคนิคที่ไม่มีกำลังตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงหยุดดำเนินการและทำได้เพียงเพียงจัดทำรายงานและแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันในเวลาต่อมาได้มีกองกำลังทหารเข้ามาสนับสนุนอีกหนึ่งคันรถตู้เพื่อขัดขวางการส่งมอบคลังในครั้งนี้ด้วย

**เปิดผู้ถือหุ้นใหญ่ แอสเซ็ท มิลเลี่ยน/เวิลด์แก๊ส

ต่อมา ปิคนิค จึงยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวกรรมการของเวิลด์แก๊สทั้ง 3 ราย และศาลล้มละลายกลางก็มีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกันที่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว จนนำมาสู่การออกหมายจับอีกรอบ และการนัดไกล่เกลี่ยของศาล เมื่อวันที่ 15ธ.ค.53 ซึ่งปิคนิคยอมขอเสนอซื้อแก๊สสำรองและอุปกรณ์ทั้งหมดของผู้คัดค้าน แต่ยังไม่ได้ตกลงในรายละเอียด

พร้อมกับยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อป้องกันกลุ่มอิทธิพลแบบเดิมมากดดัน โดยอ้างเหตุผลไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกขัดขวางจากผู้ถือหุ้น เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) และผู้ถือหุ้นบริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด

เหตุการณ์นี้หากจะให้เข้าใจ ต้องโยงกลับมาที่ บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน ในฐานะที่อ้างสิทธิการเป็นเจ้าของเวิลด์แก๊ส เนื่องด้วยได้รับโอนหุ้นเวิลด์มาจากบมจ.ปิคนิค ในครั้งก่อนด้วยจำนวนหุ้น 7,999,994 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 799,999,400 บาท และต่อมาทางแอสเซ็ท มิลเลี่ยน ได้กระทำการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงโอนหุ้นเวิลด์แก๊สทั้งหมดไปเป็นของตนเองในวันที่ 2 ม.ค.51 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโอนหุ้นดังกล่าว ยังเป็นข้อพิพาทในชั้นศาล

สิ่งที่น่าสนใจ คือ นายพิศาล พุ่มพันธุ์ม่วง มีนามสกุลไปพ้องกับ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผช.ผบ.ตร.ในปัจจุบัน ซึ่งนายพิศาลนอกจากมีจะเป็นกรรมการเวิลด์แก๊สแล้ว ยังเป็นผู้ถือหุ้นใน แอสเซ็ท มิลเลี่ยน เช่นเดียวกับ นายสง่า รัตนชาติชูชัย กรรมการอีกรายของเวิลด์แก๊ส ด้วย

นอกจากนี้ จากสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น แอสเซ็ท มิลเลี่ยน ในวันที่ 20 ก.ค.53 ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่1/2553 พบว่า พ.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง คือผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทแห่งนี้ ด้วยสัดส่วนหุ้นที่ถือ 10,187,600 หุ้น และเป็นการถือหุ้นมาตั้งแต่ปี 2552

ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงน่าจะเป็นเพราะอาจมีผู้แอบอ้างชื่อ พล.ต.ท.สมยศ มาเพื่อข่มขู่ แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อของ พล.ต.ท.สมยศ ยังต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอีก เมื่อตนเองคือผู้ถือหุ้นใหญ่ในแอสเซ็ท มิลเลี่ยน ที่มีบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ คือ เวิลด์แก๊ส และจุดนี้เองที่อาจทำให้ บมจ.ปิคนิค ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม เนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจมีผู้แอบอ้างเกิดขึ้นอีก

ขณะเดียวกัน เมื่อย้อนดูการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เวิลด์แก๊ส ในปี 2538 ก็พบว่า นายพิศาล พุ่มพันธุ์ม่วง คือ หนึ่งในคณะกรรมการผู้จัดตั้งบริษัท และจากข้อมูลบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเวิลด์แก๊ส ในวันที่ 3 ก.ย.53 แม้ แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วด้วยจำนวนหุ้น 7,999,994 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท แต่นายพิศาลเองก็มีหุ้นเวิลด์แก๊สอยู่ถึง 11,200,000 หุ้นในราคาหุ้นละ 52 บาท ประเด็นนี้ทำให้เห็นถึงความเป็นได้ว่า ตระกูลพุ่มพันธุ์ม่วง คือ เจ้าของธุรกิจเวิลด์แก๊ส มาตั้งแต่เริ่มก่อนที่จะถูก บมจ.ปิคนิค เทกโอเวอร์ไปในปี 2547

ส่วน แอสเซ็ทฯ เมื่อได้หุ้นเวิลด์แก๊สกลับมาจากการโอนลอยให้...โดยผู้บริหารปิคนิคชุดก่อน ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เจ้าเดิมตัดสินใจกลับมากอบกู้บริษัทตนเองขึ้นมาอีกครั้ง จนนำไปสู่ความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้น.....ขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น