ที่ประชุมบอร์ด ทอท.ร้อนระอุ ผู้ืืถือหุ้นรายย่อยรุมถล่มการเข้าบริหารสัมปทานอาคารและลานจอดรถสุวรรณภูมิแทนเอกชน หวั่นเจ๊งเหมือนโรงแรม พร้อมจี้ผู้บริหาร ลากคนโกงซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่ทำ ทอท.เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท มาลงโืทษ
วันนี้ (22 ม.ค.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2554 โดยมีนายปิยะพันธ์จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2553 ให้ผู้ถือหุ้น จำนวน 1,428,570,000 หุ้นในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น785,713,500 บาท หลังผลการดำเนินงานประจำปี 2553 มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้จำนวน 1,499,694,653 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 นี้
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมาก ได้ซักถามที่ประชุมอย่างหนัก เกี่ยวกับผลดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะกรณีสัญญาสัมปทานอาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีปัญหากับบริษัทที่ได้รับสัมปทานเดิม จนมีการยกเลิกสัญญาและทอท.เข้าไปบริหารเองว่า ทอท.ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้อย่างไร ด้วยเกรงจะขาดทุนซ้ำรอยกรณี บริหารโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ขณะที่ นายปิยะพันธ์ ชี้แจงว่า ทอท.ได้มีการพิจารณาแนวทางการบริหารอาคารและลานจอดรถดังกล่าวไว้แล้ว หลังจากยกเลิกสัมปทานเดิม ซึ่งพบว่าไม่มีปัญหาอะไร และสาเหตุที่ ทอท.ยกเลิกสัญญากับบริษัท ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด ก็มาจากปัญหาภายในของบริษัท แต่มากระทบกับภาพลักษณ์ของสนามบิน ส่วนการแก้ปัญหาการบริหารงานโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ล่าสุด ได้เปลี่ยนแปลงบอร์ดโรงแรมไปแล้ว ส่วนเรื่องการตั้งเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาขาดทุนนั้นคงต้องรอบอร์ดชุดใหม่เข้ามาก่อน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีผู้ถือหุ้นรายย่อยได้สอบถามความคืบหน้าคดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สรุปว่า บอร์ดทอท.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง และทำให้ทอท.เสียหายกว่า1,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาทราบว่า คตส.ได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้ว ทอท.จะดำเนินการอย่างไร
นายปิยะพันธ์ กล่าวว่า คดีทุจริตดังกล่าวทำให้ ทอท.เสียหาย ซึ่งทอท.ต้องติดตามคดีแน่นอน ผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวลแต่ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนของอัยการและป.ป.ช.ไม่อยู่ในอำนาจของทอท. พร้อมขอให้ผู้ถือหุ้นยุติการซักถามเรื่องนี้ และจะไม่อนุญาตให้พูดถึงเรื่องดังกล่าวอีก
ด้าน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และกรรมการทอท.กล่าวว่า หลังจากอัยการสูงสุดได้พิจารณาสำนวนคดีทุจริตซีทีเอ็กซ์ที่คตส.ส่งมาให้พบว่า ยังไม่สมบูรณ์หลายประเด็นจึงยังไม่เห็นด้วยในการฟ้องผู้เกี่ยวข้อง จึงแจ้งไปยังป.ป.ช.และมีการตั้งกรรมการร่วม2 ฝ่ายเพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อยุติว่า จะฟ้องบุคคลใดบ้าง
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ และกรรมการชุดย่อย โดยกรรมการทอท.จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือนเพิ่มขึ้นจากเดิม20,000 บาท เป็นคนละ 30,000 บาทค่าเบี้ยประชุมเพิ่มขึ้นจากครั้งละ 15,000 บาทเป็น 20,000 บาท ส่วนอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งโดยบอร์ดทอท.ได้รับค่าเบี้ยประชุมเพิ่มจากครั้งละ 10,000 บาท เป็น 15,000 บาท และรับค่าตอบแทนจากเดิมไม่เกินเดือนละ 20,000 บาทเพิ่มเป็นไม่เกินเดือนละ 30,000 บาท
