“ทักษิณ” ต่อสายแดงรักเจ้า “ขวัญชัย” ซูฮกถึงเวลาพาคนดีกลับบ้าน ลั่นไม่กลัวตายขอปกป้อง “พ่อแม้ว” ระดมม็อบ 2 แสนเตรียมบู๊ “อำมาตย์” แขวะสื่อโจมตี รบ.แต่เรื่องน้ำท่วม เรื่องสร้างสรรค์ไม่นำเสนอ ด้าน ป.ป.ช.จ่อฟ้อง “แม้ว” เพิ่ม 2 คดี ขณะที่อดีต ปธ.คตส.ขู่หาก “ทักษิณ” กลับไทย เปิดทางศาลเดินหน้าคดีต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระแสข่าวกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่อาจมีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับการออก พ.ร.ฎ.ดังกล่าว เพราะเราอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้กลับบ้าน 5 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณถูกกลั่นแกล้งจนต้องเดินทางไปต่างประเทศ ถึงเวลาที่ประเทศควรยุติความขัดแย้งได้แล้ว แต่ถ้ากลุ่มอำมาตย์หน้าแหลมฟันดำยังไม่หยุดเอาม็อบออกมาค้าน ปัญหาก็ไม่จบ โดยวันนี้กลุ่มของตน 20 จังหวัดจะออกมาปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน คาดว่าจะระดมคนได้จังหวัดละ 1 หมื่นคน รวม 2 แสนคน
นายขวัญชัย เปิดเผยด้วยว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งแสดงความเป็นห่วงว่าเหตุใดรัฐบาลถึงเพลี่ยงพล้ำหลายเรื่อง ทั้งปัญหาน้ำท่วม และสื่อโจมตีตลอด โดย พ.ต.ท.ทักษิณยอมรับว่า สื่อส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเรา ซึ่งส่วนตัวก็เห็นด้วยเพราะสื่อไม่เสนอเรื่องสร้างสรรค์ นำเสนอแต่ข่าวน้ำท่วม เรื่องดีๆ ของรัฐบาลกลับไม่นำเสนอ และเอาแต่ปกป้องไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ชั้นในเป็นเหมือนไข่ในหิน ทั้งที่คนต่างจังหวัดท่วมมาหลายเดือน
“ผมไม่กลัวจะเกิดความรุนแรงอีกหรือไม่ เพราะเราตายมาเยอะแล้ว ทหารจะกล้ายิงประชาชนอีกหรือ ผมก็เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน ดังนั้นก็ต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่ด้วย” นายขวัญชัยกล่าว
นายขวัญชัยกล่าวว่า ยังมั่นใจว่า ในวันที่ 5 ธ.ค.น่าจะมีเซอร์ไพรส์บางอย่าง เพราะยิ่งวันนี้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดพระเนตรแม่น้ำเจ้าพระยา และทรงเป็นห่วงพสกนิกรที่ถูกน้ำท่วม แสดงให้เห็นว่า ทรงห่วงใยประชาชนและคงไม่อยากเห็นบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ส่วนตัวเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรเอา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมารับใช้ประชาชน และประเทศชาติ ต่างชาติจะได้เกิดความมั่นใจกลับมาลงทุนในเมืองไทยมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สอบสวนและส่งต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น พบว่าขณะนี้มีหลายคดีที่ยุติไปแล้วในชั้นอัยการ ด้วยเหตุที่อัยการอ้างว่าสำนวนไม่สมบูรณ์จึงสั่งไม่ฟ้อง แต่ทาง ป.ป.ช.ได้ยืนกรานจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอง คือ คดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 และคดีการปล่อยเงินกู้ธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทเอกชน ที่ ป.ป.ช.สอบสวนเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณ และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย โดยมีรายงานว่า ป.ป.ช.กำลังให้ทีมงานของสภาทนายความเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งหากศาลฎีการับฟ้องจะทำให้มีคดี พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ เพิ่มอีกสองคดีจากเดิม 4 คดีที่ศาลได้จำหน่ายออกจากสารบบชั่วคราว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณหลบหนีไปต่างประเทศ ได้แก่ คดีปล่อยเงินกู้เอ็กซิมแบงก์ คดีแปลงสัญญาสัมปทานกิจการโทรคมนาคม คดีหวยบนดิน และคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และคดีในชั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อีก 1 คดี คือ คดีก่อการร้ายที่ดีเอสไอสอบสวนร่วมกับแกนนำ นปช.รวม 25 คนในช่วงการชุมนุมคนเสื้อแดง รวมเบ็ดเสร็จจาการตรวจสอบพบว่าทักษิณมีคดีค้างอยู่ในชั้นศาลแล้ว 5 คดี และคดีที่รอจ่อฟ้องศาลฎีกาฯ อีกอย่างน้อย 2 คดี คือ คดีซีทีเอ็กซ์ และคดีปล่อยกู้กรุงไทย
ด้าน นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการ คตส.กล่าวถึงกรณีที่ ครม.เตรียมออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเชื่อว่าเป็นเจตนาของรัฐบาลที่จะทำอยู่แล้ว เพียงแต่ดูจะไม่เหมาะสมที่มาอาศัยจังหวะฉาบฉวยช่วงน้ำท่วมทำเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอวิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะถือเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบ ส่วนหาก พ.ต.ท.ทักษิณได้รับการอภัยโทษจริง คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ก็ต้องยุติไป แต่อย่าลืมว่ายังมีอีกหลายคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นจำเลยและถูกฟ้องในความฐานความผิดอาญา อาทิ คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลพม่าจำนวน 4,000 ล้านบาท ที่ขณะนี้ศาลได้จำหน่ายการพิจารณาคดีชั่วคราว คดีทุจริตโครงการปรับปรุงระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 คดีหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว เป็นต้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทย ศาลก็ต้องออกหมายเรียกและเปิดการพิจารณาไต่สวนขึ้นอีกครั้ง เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเลือกที่จะไม่กลับประเทศไทย นายนามกล่าวว่า คงต้องแล้วแต่ใจเขา แต่หากกลับมาเมื่อไร กระบวนการทางศาลก็ต้องเริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน
มีรายงานด้วยว่า สำหรับงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีการจัดงานในวันที่ 12 ธ.ค.54 ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ซึ่งเป็นธุรกิจของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
