ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ธุรกิจอสังหาฯโคราชเฟื่องรับอานิสงส์น้ำท่วมกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คนกรุงหนีจมน้ำแห่ซื้อบ้านจัดสรรยอดขายพุ่งกระฉูด เผยโบรกเกอร์กรุงเทพฯ ทุ่ม 100 ล้านซื้อบ้านบิ๊กล็อตยกโครงการ อ.ปากช่อง 30 หลัง นำไปขายต่อเป็นบ้านหลังที่สอง ชี้ปีหน้าโคราชแข่งเดือด 2 โครงการใหญ่ผุดสู้บนทำเลทอง ด้านสมาคมฯ เตรียมโรดโชว์บุกตลาดกรุงเทพฯ ด้าน“คลังคาซ่า” เจ้าถิ่นปลื้มทำเลโดนใจชาวกรุงยอดขายพุ่ง 800% ส่วนใหญ่สนใจบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สร้างเสร็จพร้อมขายระดับ ราคา 2-10 ล้าน
นายวีรพล จงเจริญใจ รองนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากสภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ จ.นครราชสีมาทำให้ยอดขายบ้านจัดสรรในเดือนพ.ย. เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก หลังตลาดชะลอตัวมานานร่วม 3 เดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ปากช่อง ซึ่งเป็นทำเลที่คนกรุงเทพฯ ให้ความสนใจซื้อบ้านหลังที่ 2 กันเป็นจำนวนมาก ล่าสุดพบว่ามีโบรกเกอร์จากกรุงเทพฯ ทุ่มเงินซื้อบ้านล็อตใหญ่แบบเหมายกโครงการถึง 30 หลัง ราคาหลังละประมาณ 3 ล้านบาทขึ้นไป รวมกว่า 100 ล้าน เพื่อนำไปทำการตลาดขายต่อให้กับกลุ่มลูกค้า กรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ากรุงเทพฯและปริมณฑล มากคือ บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และ คอนโดมิเนียม ที่สร้างเสร็จพร้อมขาย ซึ่งขณะนี้ จ.นครราชสีมามีอยู่ประมาณ 2,000 ยูนิต โดยส่วนใหญ่ซื้อไว้เป็นทรัพย์สินและให้เช่า แต่ตัวเองไปทำงานในกรุงเทพฯ ถือว่าวิกฤตน้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งนี้เป็นโอกาสดีของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โคราชที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมายอดขายอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทของ จ.นครราชสีมา เฉลี่ยรวมปีละประมาณ 10,000 หน่วย กว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นและผลจากปัญหาน้ำท่วมจะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โคราชคึกคักต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า
“ ปลายเดือนพ.ย. นี้สมาคมฯ จะหารือกันในการไปจัดงานโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่ตลาดกรุงเทพฯ โดยตรง คาดว่าหากสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สมาคมฯจะกำหนดวันเวลา และรูปแบบการจัดงานโรดโชว์ดังกล่าวที่ชัดเจนอีกครั้ง ” นายวีรพล กล่าว
นายวีรพล กล่าวถึงการแข่งขันตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใน จ.นครราชสีมา ว่า ยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรง และมีโครงการบ้านจัดสรรรายใหญ่ขยายโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จะเปิดโครงการใหม่ ริมถนนมิตรภาพ ช่วงวัดใหม่บ้านดอน ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา บนเนื้อที่ 90 ไร่ กว่า 100 ล้านบาท ขณะที่โครงการเดอะเวนิส พาร์ค ของกลุ่มคลังคาซ่า จะเปิดโครงการใหม่ทำเลทอง ริมถนนมิตรภาพ เยื้องสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 1 เขตเทศบาลนครราชสีมา บนเนื้อที่ 130 ไร่ รวม 600 ยูนิต กว่า 2,000 ล้านบาท และยังมีโครงการขนาดกลางและเล็ก ผุดขึ้นอีกจำนวนมาก
ด้าน นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ กรรมการบริหาร บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรรายใหญ่ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้ยอดขายบ้านโครงการ “นีโอ ปาร์ค” และ “ เดอะ เวนิส พาร์ค ” ของ บริษัท คลังคาซ่า พุ่งสูงเพิ่มขึ้นถึง 800% จากภาวะปกติโดยเฉลี่ยขายบ้านได้เดือนละ 1 หลัง แต่ในช่วงแค่ 10 วันของเดือน พ.ย. ที่ผ่านมามียอดขายมากถึง 8 หลัง ลูกค้าที่เข้ามาซื้อเป็นคนทำงานในกรุงเทพฯและกำลังตัดสินใจซื้อบ้านที่กรุงเทพฯ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มักมีรากฐาน เช่น ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักอยู่ที่ จ.นครราชสีมา แต่หลังเกิดน้ำท่วมจึงหันมาซื้อบ้านที่ จ.นครราชสีมาแทน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตัดสินใจเร็วกว่าลูกค้าที่ทำงานอยู่ใน จ.นครราชสีมา เนื่องจากมีกำลังซื้อสูง และราคาบ้านถูกกว่ากรุงเทพฯ มาก ขณะที่คุณภาพไม่แตกต่างกัน คาดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้แน่นอน
“ กลุ่มลูกค้าที่หนีน้ำท่วมจากกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ให้ความสนใจซื้อบ้านเดี่ยวขนาด 2 ชั้น ระดับราคาตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท โดยบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมขายจะเป็นเป้าหมายหลักและจะเร่งโอนบ้านทันทีหลังตัดสินใจซื้อ ซึ่งบางรายซื้อบ้านไว้เพื่อให้เช่า เช่น ผ่อนชำระธนาคารเดือนละ 12,000 บาท แต่เปิดให้เช่าในราคาเดือนละ 15,000 บาท ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้” นายสุดที่รัก กล่าว
นายวีรพล จงเจริญใจ รองนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากสภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ จ.นครราชสีมาทำให้ยอดขายบ้านจัดสรรในเดือนพ.ย. เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก หลังตลาดชะลอตัวมานานร่วม 3 เดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ปากช่อง ซึ่งเป็นทำเลที่คนกรุงเทพฯ ให้ความสนใจซื้อบ้านหลังที่ 2 กันเป็นจำนวนมาก ล่าสุดพบว่ามีโบรกเกอร์จากกรุงเทพฯ ทุ่มเงินซื้อบ้านล็อตใหญ่แบบเหมายกโครงการถึง 30 หลัง ราคาหลังละประมาณ 3 ล้านบาทขึ้นไป รวมกว่า 100 ล้าน เพื่อนำไปทำการตลาดขายต่อให้กับกลุ่มลูกค้า กรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ากรุงเทพฯและปริมณฑล มากคือ บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และ คอนโดมิเนียม ที่สร้างเสร็จพร้อมขาย ซึ่งขณะนี้ จ.นครราชสีมามีอยู่ประมาณ 2,000 ยูนิต โดยส่วนใหญ่ซื้อไว้เป็นทรัพย์สินและให้เช่า แต่ตัวเองไปทำงานในกรุงเทพฯ ถือว่าวิกฤตน้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งนี้เป็นโอกาสดีของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โคราชที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมายอดขายอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทของ จ.นครราชสีมา เฉลี่ยรวมปีละประมาณ 10,000 หน่วย กว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นและผลจากปัญหาน้ำท่วมจะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โคราชคึกคักต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า
“ ปลายเดือนพ.ย. นี้สมาคมฯ จะหารือกันในการไปจัดงานโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่ตลาดกรุงเทพฯ โดยตรง คาดว่าหากสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สมาคมฯจะกำหนดวันเวลา และรูปแบบการจัดงานโรดโชว์ดังกล่าวที่ชัดเจนอีกครั้ง ” นายวีรพล กล่าว
นายวีรพล กล่าวถึงการแข่งขันตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใน จ.นครราชสีมา ว่า ยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรง และมีโครงการบ้านจัดสรรรายใหญ่ขยายโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จะเปิดโครงการใหม่ ริมถนนมิตรภาพ ช่วงวัดใหม่บ้านดอน ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา บนเนื้อที่ 90 ไร่ กว่า 100 ล้านบาท ขณะที่โครงการเดอะเวนิส พาร์ค ของกลุ่มคลังคาซ่า จะเปิดโครงการใหม่ทำเลทอง ริมถนนมิตรภาพ เยื้องสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 1 เขตเทศบาลนครราชสีมา บนเนื้อที่ 130 ไร่ รวม 600 ยูนิต กว่า 2,000 ล้านบาท และยังมีโครงการขนาดกลางและเล็ก ผุดขึ้นอีกจำนวนมาก
ด้าน นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ กรรมการบริหาร บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรรายใหญ่ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้ยอดขายบ้านโครงการ “นีโอ ปาร์ค” และ “ เดอะ เวนิส พาร์ค ” ของ บริษัท คลังคาซ่า พุ่งสูงเพิ่มขึ้นถึง 800% จากภาวะปกติโดยเฉลี่ยขายบ้านได้เดือนละ 1 หลัง แต่ในช่วงแค่ 10 วันของเดือน พ.ย. ที่ผ่านมามียอดขายมากถึง 8 หลัง ลูกค้าที่เข้ามาซื้อเป็นคนทำงานในกรุงเทพฯและกำลังตัดสินใจซื้อบ้านที่กรุงเทพฯ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มักมีรากฐาน เช่น ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักอยู่ที่ จ.นครราชสีมา แต่หลังเกิดน้ำท่วมจึงหันมาซื้อบ้านที่ จ.นครราชสีมาแทน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตัดสินใจเร็วกว่าลูกค้าที่ทำงานอยู่ใน จ.นครราชสีมา เนื่องจากมีกำลังซื้อสูง และราคาบ้านถูกกว่ากรุงเทพฯ มาก ขณะที่คุณภาพไม่แตกต่างกัน คาดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้แน่นอน
“ กลุ่มลูกค้าที่หนีน้ำท่วมจากกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ให้ความสนใจซื้อบ้านเดี่ยวขนาด 2 ชั้น ระดับราคาตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท โดยบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมขายจะเป็นเป้าหมายหลักและจะเร่งโอนบ้านทันทีหลังตัดสินใจซื้อ ซึ่งบางรายซื้อบ้านไว้เพื่อให้เช่า เช่น ผ่อนชำระธนาคารเดือนละ 12,000 บาท แต่เปิดให้เช่าในราคาเดือนละ 15,000 บาท ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้” นายสุดที่รัก กล่าว
