หอการค้าฯ ชี้ สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ ถึง 12 มี.ค. เกิดภาวะสุญญากาศ ปชช.ชะลอการจับจ่ายใช้สอย "พรศิลป์" เตือนรัฐบาลต้องคุมสถานการณ์ให้ได้ และไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง วอนให้เคารพคำตัดสิน "ผู้ส่งออก" ตั้งข้อสังเกตุ "แก๊งหางแดง" อ้างเหตุชุมนุมใหญ่ไร้เหตุผลชอบธรรมหนุน อัดไข่แม้ว หากนำประชาชนมาเป็นเครื่องมือ เพื่อป้องกันคนเพียงไม่กี่คน ถือว่าไม่ถูกต้อง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ผลการตัดสินยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบ แต่ในช่วงนับตั้งแต่นี้จนถึงวันที่ 12 มีนาคม 2553 จะเกิดสุญญากาศในหลายด้าน และคงจะต้องรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นวันที่ 12 มีนาคม 2553 ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง จะรวมกลุ่มนับล้านคน และประกาศจะให้เกิดการแตกหัก ยุบสภา
"ต้องถือว่า ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังจับตามองสิ่งที่จะเกิดขึ้น ประชาชนเกิดการชะลอการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าการซื้อบ้าน หรืออื่นๆ เพราะต่างรอว่า หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร หากสถานการณ์ต่างๆ ไม่เลวร้ายมาก และนิ่งลงได้ น่าจะทำให้ประชาชนมั่นใจที่จะจับจ่ายใช้สอย แต่หากเกิดความรุนแรง คงต้องดูว่าจะต้องปรับตัวอย่างไร"
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการ หอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง จะนัดชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 12 มีนาคม 2553 นี้ โดยระบุว่า รัฐบาลจะต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการรุนแรง พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายยุติการเผชิญหน้ารูปแบบต่างๆ และขอให้ทุกอย่างจบลงโดยยึดคำตัดสินของศาล
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย หากบ้านเมืองไม่สงบสุข โดยเฉพาะมีการประกาศจากกลุ่มเสื้อแดง แม้ผลการตัดสินของศาลจะเป็นเช่นไร ก็จะมีการนัดชุมนุมกลางเดือนมีนาคม 2553 นี้ โดยจะดึงมวลชนนับล้านคนมาขับไล่รัฐบาล ไม่ว่าจะยุบสภา ลาออก หรือใดๆ ก็ตาม โดยภาคเอกชนไม่เห็นด้วย ถือเป็นการทำลายภาพพจน์ของประเทศ
"นปช.ไม่ควรนำประชาชนมาเป็นเครื่องมือ เพื่อป้องกันคนเพียงไม่กี่คน น่าจะใช้วิถีทางการเมืองเจรจาต่อรอง เพื่อให้เกิดความสงบสุข ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว หากมีภาพที่ไม่ดีออกมาการลงทุนก็จะหยุดชะงัก ทำให้ประเทศไทยเกิดความล้าหลัง เพราะที่ผ่านมาไทยมีปัญหาการเมืองตลอด หากเกิดความรุนแรงภาพพจน์ของไทยหลังจากนี้ ก็จะกระทบด้านการท่องเที่ยว การลงทุน ตลาดหุ้น"
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย ในฐานะตัวแทนเกษตรกรชาวนาทั่วประเทศ กล่าวว่า เกษตรกรส่วนใหญ่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข และอยากให้คนไทยยอมรับผลการตัดสินของศา พร้อมระบุว่า หากนักการเมืองจะนำระบบการเมืองมาเล่นและปกป้องคนๆ เดียว ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะขณะนี้ รัฐบาลบริหารประเทศ เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข แต่หากคนไทยยังแตกแยกสิ่งที่ตามมาประเทศชาติจะเสียหายและคนที่จะได้รับผลกระทบต้นๆ คือ เกษตรกรชาวนาทั้งประเทศ
ดังนั้น จึงอยากให้คนไทยมองถึงประเทศชาติและประชาชน อย่ามองเพียงด้านใดด้านหนึ่ง และเล่นเกมการเมืองจนเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ
