ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้เดิม “ภัทรลิสซิ่ง” และจัดอันดับหุ้นกู้ใหม่ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “Stable” สะท้อนศักยภาพผู้นำตลาดธุรกิจรถยนต์เช่าไทย
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)PL คงเดิมที่ระดับ “A-” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A-” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และมีผลประกอบการในระยะปานกลางตามคาด โดยบริษัทน่าจะสามารถรักษาฐานลูกค้าสำคัญกลุ่มเดิมไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงและภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่แน่นอน
บริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์เอาไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2551 มากกว่า 20% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของผู้ประกอบการรายใหญ่ 25 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทให้บริการเช่าดำเนินงานและเช่าทางการเงินแก่ลูกค้านิติบุคคลที่เป็นบริษัทขนาดกลางถึงใหญ่ ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2552 ซึ่งสิ้นสุดเดือนกันยายน 2552 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานจำนวน 4,640 ล้านบาทและมีลูกหนี้สินเชื่อให้เช่าการเงินจำนวน 662 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจาก 4,265 ล้านบาทและ 334 ล้านบาท
ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2551 การมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศและการมีฐานเงินทุนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่ แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวได้รับการชดเชยจากการมีปริมาณค้างชำระค่าเช่าของลูกค้าที่อยู่ในระดับต่ำเพราะลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่มีฐานะทางการเงินที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 รายของบริษัทยังมีปริมาณสินทรัพย์ให้เช่าที่กระจายตัวมากขึ้น
ในปีบัญชี 2552 บริษัทภัทรลิสซิ่งมีกำไรสุทธิ 218 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับรอบปีบัญชี 2551 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยเท่ากับ 3.8% ในรอบปีบัญชี 2552 ลดลงจาก 4.2% ในรอบปีบัญชี 2551 ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเพิ่มการตั้งสำรองทั่วไปสำหรับหนี้ปกติตามการขยายตัวของสินเชื่อเช่าการเงิน ทั้งนี้ หากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษและหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในรอบปีบัญชี 2553
บริษัทภัทรลิสซิ่งใช้เงินทุนจากการกู้ยืมในการขยายฐานสินทรัพย์เป็นหลัก ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2552 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 2.30 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.23 เท่าในรอบปีบัญชี 2551 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวยังเพียงพอสำหรับใช้ในการขยายธุรกิจในระยะปานกลาง บริษัทพยายามบริหารอายุของหนี้ผ่านการกู้ยืมระยะยาวเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาเช่าสินทรัพย์ เนื่องจากอัตราส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้น ต่อหนี้สินรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 51.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2552 จาก 49.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 ดังนั้น การออกหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทอายุ 3 ปีในครั้งนี้จะช่วยปรับโครงสร้างหนี้สินให้มีความสอดคล้องกับโครงสร้างสินทรัพย์ของบริษัททั้งในส่วนของระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ย
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)PL คงเดิมที่ระดับ “A-” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A-” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และมีผลประกอบการในระยะปานกลางตามคาด โดยบริษัทน่าจะสามารถรักษาฐานลูกค้าสำคัญกลุ่มเดิมไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงและภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่แน่นอน
บริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์เอาไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2551 มากกว่า 20% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของผู้ประกอบการรายใหญ่ 25 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทให้บริการเช่าดำเนินงานและเช่าทางการเงินแก่ลูกค้านิติบุคคลที่เป็นบริษัทขนาดกลางถึงใหญ่ ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2552 ซึ่งสิ้นสุดเดือนกันยายน 2552 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานจำนวน 4,640 ล้านบาทและมีลูกหนี้สินเชื่อให้เช่าการเงินจำนวน 662 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจาก 4,265 ล้านบาทและ 334 ล้านบาท
ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2551 การมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศและการมีฐานเงินทุนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่ แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวได้รับการชดเชยจากการมีปริมาณค้างชำระค่าเช่าของลูกค้าที่อยู่ในระดับต่ำเพราะลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่มีฐานะทางการเงินที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 รายของบริษัทยังมีปริมาณสินทรัพย์ให้เช่าที่กระจายตัวมากขึ้น
ในปีบัญชี 2552 บริษัทภัทรลิสซิ่งมีกำไรสุทธิ 218 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับรอบปีบัญชี 2551 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยเท่ากับ 3.8% ในรอบปีบัญชี 2552 ลดลงจาก 4.2% ในรอบปีบัญชี 2551 ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเพิ่มการตั้งสำรองทั่วไปสำหรับหนี้ปกติตามการขยายตัวของสินเชื่อเช่าการเงิน ทั้งนี้ หากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษและหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในรอบปีบัญชี 2553
บริษัทภัทรลิสซิ่งใช้เงินทุนจากการกู้ยืมในการขยายฐานสินทรัพย์เป็นหลัก ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2552 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 2.30 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.23 เท่าในรอบปีบัญชี 2551 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวยังเพียงพอสำหรับใช้ในการขยายธุรกิจในระยะปานกลาง บริษัทพยายามบริหารอายุของหนี้ผ่านการกู้ยืมระยะยาวเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาเช่าสินทรัพย์ เนื่องจากอัตราส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้น ต่อหนี้สินรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 51.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2552 จาก 49.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 ดังนั้น การออกหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทอายุ 3 ปีในครั้งนี้จะช่วยปรับโครงสร้างหนี้สินให้มีความสอดคล้องกับโครงสร้างสินทรัพย์ของบริษัททั้งในส่วนของระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ย