xs
xsm
sm
md
lg

ส.โรงแรมอ้อนคลัง ช่วยยืดอายุชำระหนี้ หลังรัฐกระเป๋าแห้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายใหญ่อกหัก คลังเมินปล่อยโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำก๊อกสอง ชี้ รัฐบาลกระเป๋าแห้ง ต้องใช้เงินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในวงกว้าง ด้านส.โรงแรมไทย อ้อน “ประดิษฐ์” รมช.คลัง ช่วยเจรจาสถาบันการเงินยืดอายุการพักชำระหนี้เงินต้นไปอีก 1-2ปี ขอเวลาให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มที่ชี้กำลังซื้อยังไม่เป็นปกติผู้ประกอบการเริ่มกระหน่ำสงครามราคาตั้งแต่ต้นปีเป็นกลยุทธ์เรียกแขกเข้าพัก เหตุหลังปีใหม่ อัตราเข้าพักเริ่มตกเหลือ 50-60% ธุรกิจโอเวอร์ซัพพลายและกำลังซื้อยังหดตัว ฉะภาครัฐไม่คุมเข้มปล่อยโรงแรมเถื่อนลอยนวล
รายงานข่าวจากสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ได้นำคณะกรรมการสมาคมเข้าหารือกับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้พิจารณาช่วยเหลือปัญหาขาดสภาพคล่องของผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับคำตอบว่า จะตั้งคณะทำงานประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐและเอกชน เข้ามาศึกษาหาวิธีการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน
โดยนายประดิษฐ์ ระบุว่า คงเป็นไปได้ยากหากจะให้กระทรวงการคลังช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาทขึ้นไป เพราะกระทรวงการคลังมีเงินอยู่อย่างจำกัด จึงต้องพิจารณาใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพกว้างให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันทุกอุตสาหกรรมต่างก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจกันทั้งสิ้น ขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีนี้ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นตามลำดับ
ทั้งนี้สมาคมโรงแรมไทยจึงเสนอแนวคิดเบื้องต้นต่อรมช.กระทรวงการคลังว่า หากไม่สามารถจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ ก็ขอให้ช่วยเจรจากับสถาบันการเงินจัดโครงการยืดอายุการพักชำระหนี้เงินต้นให้แก่ผู้ประกอบการที่ครบกำหนดออกไปอีกสักระยะ โดยให้นำส่งเฉพาะดอกเบี้ยต่อไปอีกสัก 1-2 ปี แล้วจึงค่อยทยอยส่งคืนเงินต้น ซึ่งรมช.กระทรวงการคลังได้รับไปพิจารณาโดยมอบหมายให้คณะทำงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ช่วยศึกษาถึงความเป็นไปได้ด้วย
โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเป็นหนึ่งในหลายๆมาตรการที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เฉพาะที่เป็นรายกลางและรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2552 รวมวงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยจัดสรรให้เฉพาะผู้ปล่อยกู้ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ และธนาคารออมสิน
ผู้ประกอบการสามารถกู้ได้รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยรัฐบาลต้องนำงบประมาณมาสนับสนุน 245.5 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนแก่ธนาคารเป็นค่าส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี และอุดหนุนค่าส่วนต่างของค่าธรรมเนียมค้ำประกันเงินกู้แก่ บสย. 1.50% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี เป็นวงเงินปีละ 111.25 ล้านบาท รวม 2 ปี เป็นวงเงิน 222.5 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในเวลา 2 ปี วงเงิน
23 ล้านบาท

โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำยังอืด
สำหรับโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ปีก่อน สิ้นสุด ก.ย.53 ล่าสุดยังมีผู้ประกอบการที่ยื่นเรื่องไปแล้วอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวงเงินกู้ โดยทางสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ยังมีความกังวลเรื่องของเอ็นพีแอล เพราะหลายบริษัทมีชื่อติดอยู่ในเครดิตบูโร
แม้คณะรัฐมนตรีจะมีมติออกมากำชับว่าให้สถาบันการเงินผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยกู้ให้เอกชนในกลุ่มนี้หากพิสูจน์ได้ว่าสาเหตุเอ็นพีแอลมาจากผลกระทบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ แต่ถึงกระนั้นทางธนาคารก็ยังมีความวิตกกังวลที่จะปล่อยกู้ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่พิจารณาเอกสารยังไม่มีความชำนาญมากพอ เพราะโครงการนี้ถือเป็นโครงการใหม่ที่อยู่นอกเกณฑ์การปล่อยกู้โดยทั่วไป
กำลังโหลดความคิดเห็น