ASTVผู้จัดการรายวัน -นายธวัชไชย สุทธิกิจธิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ในปี 2553 นี้ไว้ที่ 4 พันล้านบาท จากปี 2552 ที่ธนาคารตั้งเป้าหมายจำหนายเอ็นพีเอไว้ที่ 3 พันล้านบาท แต่ปรากฎว่ายอดการจำหน่ายจบที่ 2.9 พันล้านบาท โดยฐานทรัพย์เอ็นพีเอของ ณ ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท หรือมีจำนวนกว่า 2 พันรายการ แบ่งเป็นที่ดิน 65% บ้าน 31% คอนโดมิเนียม 4%
“โดยธนาคารจะเน้นจำหน่ายทรัพย์ให้กับลูกค้าและนักลงทุนทั่วไป จากที่ผ่านมาธนาคารได้ตั้งเป้าว่าจะต้องขายเอ็นพีเอให้ได้เฉลี่ย 2 – 3 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งธนาคารคาดว่าภายในสิ้นปีนี้และสิ้นปีหน้าจำนวนเอ็นพีเอของธนาคารจะลดลงเหลือประมาณ 7 พันล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2554 ข้างหน้าธนาคารจะสามารถทยอยลดขนาดเอ็นพีเอออกไปได้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบดูแล้วในสิ้นปี 2551 จำนวนเอ็นพีเออยู่ที่ 7.6 พันล้านบาทจนกระทั่งไตรมาส 3 ปีที่แล้วจำนวนเอ็นพีเอลดลงเหลือ 7.3 พันล้านบาท ดังนั้นธนาคารจึงมั่นใจว่าเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้จะเป็นไปได้อย่างแน่นอน” นายธวัชชัย กล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดการจำหน่ายเอ็นพีเอในปีนี้มองว่าดีขึ้นกว่าปีที่แล้วพอสมควร โดยนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจเรื่องอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเฉพาะที่ดินเปล่าประกอบกับในปีแล้วผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ชะลอการซื้อที่ดินเพื่อต่อยอดโครงการต่างๆ จากความเป็นห่วงทิศทางเศรษฐกิจจึงส่งผลต่อการลงทุน แต่ในปีนี้มีปัจจัยบวกหลายอย่าง อาทิ เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตลาดหุ้นเริ่มทรงตัว เพราะฉะนั้นข่าวดีก็ยังเป็นตัวทรัพย์สินเพื่อการลงทุนที่จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
นายธวัชชัย ยังกล่าวถึงฐานสินเชื่อพัฒนาโครงการจัดสรรในปัจจุบันว่าอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายที่ธนาคารเคยเจรจาเพื่อให้มาใช้สินเชื่อกับธนาคารในที่แล้ว จากการที่ธนาคารพิจารณาแล้วว่ามียอดขายที่ดี และไม่เผชิญปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จนกระทั่งในปีนี้ธนาคารก็คาดว่าแผนงานดังกล่าวจะยังคงต่อเนื่อง และเน้นไปลูกที่ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบประมาณ 75% และอีก 25% จะเป็นประเภทคอนโด
ล่าสุด ธนาคารได้มีการนำทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารจากทั่วประเทศมูลค่ารวมประมาณกว่า 1.5 พันล้านบาท ออกมาจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปที่ต้องการซื้อรวมทั้งนักลงทุนด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยธนาคารจัดทรัพย์ทั้งหมดออกมาจำหน่ายทั้งสิ้น 270 รายการ ให้ส่วนลดพิเศษตั้งแต่ 20 – 60% ซึ่งให้วงเงินสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อเอ็นพีเอสูงสุด 95% อัตราดอกเบี้ย 0% ใน 9 เดือนแรก แต่หากเป็นลูกค้าและคู่ค้าของธนาคารจะให้สิทธิ์พิเศษอัตราดอกเบี้ย 0% ในปีแรกตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดไว้
ทั้งนี้ ธนาคารจะทำการแบ่งทรัพย์ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ทรัพย์ที่นำออกขายในกิจกรรม Hot Sale Hot price ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5 แสนบาท จนถึง 60 ล้านบาท และอีกกลุ่มคือการจัดประมูลทรัพย์เด่นจำนวน 6 รายการเช่น ที่ดินเปล่าเนื้อที่ 1-2-17 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 31, คอนโดมิเนียม โครงการปิ่นเกล้า จำนวน 37 ยูนิต เนื้อที่ 5,448 ตารางเมตร
ทรัพย์สินดังกล่าวเหมาะสำหรับการนำไปลงทุนโครงการต่างๆ หรือโครงการเชิงพาณิชย์ โดยจะใช้วิธียื่นซองประมูล โดยผู้ที่เข้าประมูลจะต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันตามที่ธนาคารกำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2553 และจะทำการเปิดรับยื่นซองประมูลและประกาศผลในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ส่วนลูกค้าที่สนใจซื้อทรัพย์สามารถชมงานได้ระหว่างวันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2553
“โดยธนาคารจะเน้นจำหน่ายทรัพย์ให้กับลูกค้าและนักลงทุนทั่วไป จากที่ผ่านมาธนาคารได้ตั้งเป้าว่าจะต้องขายเอ็นพีเอให้ได้เฉลี่ย 2 – 3 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งธนาคารคาดว่าภายในสิ้นปีนี้และสิ้นปีหน้าจำนวนเอ็นพีเอของธนาคารจะลดลงเหลือประมาณ 7 พันล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2554 ข้างหน้าธนาคารจะสามารถทยอยลดขนาดเอ็นพีเอออกไปได้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบดูแล้วในสิ้นปี 2551 จำนวนเอ็นพีเออยู่ที่ 7.6 พันล้านบาทจนกระทั่งไตรมาส 3 ปีที่แล้วจำนวนเอ็นพีเอลดลงเหลือ 7.3 พันล้านบาท ดังนั้นธนาคารจึงมั่นใจว่าเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้จะเป็นไปได้อย่างแน่นอน” นายธวัชชัย กล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดการจำหน่ายเอ็นพีเอในปีนี้มองว่าดีขึ้นกว่าปีที่แล้วพอสมควร โดยนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจเรื่องอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเฉพาะที่ดินเปล่าประกอบกับในปีแล้วผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ชะลอการซื้อที่ดินเพื่อต่อยอดโครงการต่างๆ จากความเป็นห่วงทิศทางเศรษฐกิจจึงส่งผลต่อการลงทุน แต่ในปีนี้มีปัจจัยบวกหลายอย่าง อาทิ เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตลาดหุ้นเริ่มทรงตัว เพราะฉะนั้นข่าวดีก็ยังเป็นตัวทรัพย์สินเพื่อการลงทุนที่จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
นายธวัชชัย ยังกล่าวถึงฐานสินเชื่อพัฒนาโครงการจัดสรรในปัจจุบันว่าอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายที่ธนาคารเคยเจรจาเพื่อให้มาใช้สินเชื่อกับธนาคารในที่แล้ว จากการที่ธนาคารพิจารณาแล้วว่ามียอดขายที่ดี และไม่เผชิญปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จนกระทั่งในปีนี้ธนาคารก็คาดว่าแผนงานดังกล่าวจะยังคงต่อเนื่อง และเน้นไปลูกที่ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบประมาณ 75% และอีก 25% จะเป็นประเภทคอนโด
ล่าสุด ธนาคารได้มีการนำทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารจากทั่วประเทศมูลค่ารวมประมาณกว่า 1.5 พันล้านบาท ออกมาจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปที่ต้องการซื้อรวมทั้งนักลงทุนด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยธนาคารจัดทรัพย์ทั้งหมดออกมาจำหน่ายทั้งสิ้น 270 รายการ ให้ส่วนลดพิเศษตั้งแต่ 20 – 60% ซึ่งให้วงเงินสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อเอ็นพีเอสูงสุด 95% อัตราดอกเบี้ย 0% ใน 9 เดือนแรก แต่หากเป็นลูกค้าและคู่ค้าของธนาคารจะให้สิทธิ์พิเศษอัตราดอกเบี้ย 0% ในปีแรกตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดไว้
ทั้งนี้ ธนาคารจะทำการแบ่งทรัพย์ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ทรัพย์ที่นำออกขายในกิจกรรม Hot Sale Hot price ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5 แสนบาท จนถึง 60 ล้านบาท และอีกกลุ่มคือการจัดประมูลทรัพย์เด่นจำนวน 6 รายการเช่น ที่ดินเปล่าเนื้อที่ 1-2-17 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 31, คอนโดมิเนียม โครงการปิ่นเกล้า จำนวน 37 ยูนิต เนื้อที่ 5,448 ตารางเมตร
ทรัพย์สินดังกล่าวเหมาะสำหรับการนำไปลงทุนโครงการต่างๆ หรือโครงการเชิงพาณิชย์ โดยจะใช้วิธียื่นซองประมูล โดยผู้ที่เข้าประมูลจะต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันตามที่ธนาคารกำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2553 และจะทำการเปิดรับยื่นซองประมูลและประกาศผลในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ส่วนลูกค้าที่สนใจซื้อทรัพย์สามารถชมงานได้ระหว่างวันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2553
