แบงก์ไทยพาณิชย์เผยกำลังอยู่ระหว่างทำแผนปีหน้า เบื้องต้นประเมินว่าสินเชื่อรวมจะโตมากกว่าจีดีพี 1 เท่า ยันเข้าร่วมประมูลโครงการไทยเข้มแข็งแน่ คาดส่งผลให้สินเชื่อของธนาคารเติบโตได้กว่าปีนี้
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจสินเชื่อรวมในปี 2553 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนงาน โดยในเบื้องต้นธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตมากกว่าปี 2552 ที่มีการขยายตัวต่ำมาก ประกอบกับในปีหน้ามีโครงการไทยเข้มแข็งที่คาดว่าจะมีส่วนในการผลักดันให้สินเชื่อของธนาคารเติบโตได้มากกว่าปีนี้
“จากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และโดยปกติธนาคารจะวางเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อมากกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ประมาณ 1 เท่า ซึ่งธนาคารคาดว่าจีดีพีปี 2553 จะขยายตัว 3-4% ทำให้ธนาคารเชื่อว่าสินเชื่อในปี 2553 จะเติบโตได้มากกว่าปีนี้ โดยปีหน้าธนาคารจะโฟกัสไปยังสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อเอสเอ็มอี” นางกรรณิกา กล่าว
ส่วนสินเชื่อรวมในปี 2552 คาดว่าอาจจะขยายตัวได้ต่ำกว่า 3% หรืออาจจะต่ำกว่ากว่านี้เล็กน้อย จากต้นปีตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3-5% เนื่องจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อยังคงติดลบอยู่ และในการวางเป้าหมายธนาคารคาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีกว่าที่เกิดขึ้น แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจแย่กว่าที่คาด จึงทำให้สินเชื่อไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย
“ขณะนี้ความต้องการสินเชื่อเริ่มกลับมาดีขึ้น และดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงมองว่าความต้องการสินเชื่อในปีหน้าจะมีมากขึ้นกว่าในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนความสามารถการสร้างกำไรของธนาคารนั้น ขณะนี้ไม่ได้มาจากสินเชื่อเพียงอย่างเดียว แต่ธนาคารต้องควบคุมและบริหารต้นทุนรวมทั้งค่าธรรมเนียมอย่างเหมาะสม เพื่อชดเชยรายได้จากดอกเบี้ยที่ขยายตัวได้ไม่มากนัก” นางกรรณิกากล่าว
ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั้งดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในขณะนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ 1.25% แต่คาดว่าจะขยับ 0.25-0.50% ในช่วงครึ่งปีหลัง 2553 เนื่องจากรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้มีความชัดเจนก่อน
“ดูแนวทางแล้ว ดอกเบี้ยตอนนี้คงยังไม่เปลี่ยนแปลง จนกระทั่งประมาณครึ่งปีหลัง 53 แต่อาจขยับขึ้นไม่มาก เพราะเศรษฐกิจดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งถ้าเปลี่ยนดอกเบี้ยเร็วเกินไป จะกระทบต่อการฟื้นตัว สำหรับแบงก์ ก็คงเดินตามดอกเบี้ยนโยบายเป็นหลัก โดยต้องดูว่าแบงก์ชาติจะว่าอย่างไร” นางกรรณิกากล่าว
สำหรับสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันพบว่า ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในปีหน้าอาจจะลดลง เนื่องจากหากพิจารณาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดว่าจีดีพีจะโต 3-3.5% นั้น ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อดีขึ้นกว่าในปีนี้ จึงทำให้สภาพคล่องลดลงตาม
นางกรรณิกากล่าวว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์จัดทำโครงการไมโครไฟแนนซ์นั้น นางกรรณิกา กล่าวว่า สภาวะองค์กรในปัจจุบันคงทำในเรื่องดังกล่าวไม่ได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงมากที่จะไม่ได้รับเงินกู้กลับคืนมา ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาด้วย
“องค์กรปัจจุบันทำไม่ได้ ซึ่งต้องทำกันคนละแบบ โดยตอนนี้เรายังไม่มีแผนที่จะทำ เพราะเกรงว่าหากทำโดยไม่พร้อม ก็เอาเงินกลับมาไม่ได้เช่นกัน และจะสร้างปัญหาตามมา”นางกรรณิกา กล่าว
ด้านนายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์สินเชื่อลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้จัดงานมหกรรมสินเชื่อบ้าน “SCB Home Loan Expo 2009” งานเดียวโดนใจ จับมือพันธมิตรอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 6 แห่งนำเสนอบ้านในราคาและเงื่อนไขพิเศษสุด พร้อมมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 1 ปี
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจสินเชื่อรวมในปี 2553 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนงาน โดยในเบื้องต้นธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตมากกว่าปี 2552 ที่มีการขยายตัวต่ำมาก ประกอบกับในปีหน้ามีโครงการไทยเข้มแข็งที่คาดว่าจะมีส่วนในการผลักดันให้สินเชื่อของธนาคารเติบโตได้มากกว่าปีนี้
“จากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และโดยปกติธนาคารจะวางเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อมากกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ประมาณ 1 เท่า ซึ่งธนาคารคาดว่าจีดีพีปี 2553 จะขยายตัว 3-4% ทำให้ธนาคารเชื่อว่าสินเชื่อในปี 2553 จะเติบโตได้มากกว่าปีนี้ โดยปีหน้าธนาคารจะโฟกัสไปยังสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อเอสเอ็มอี” นางกรรณิกา กล่าว
ส่วนสินเชื่อรวมในปี 2552 คาดว่าอาจจะขยายตัวได้ต่ำกว่า 3% หรืออาจจะต่ำกว่ากว่านี้เล็กน้อย จากต้นปีตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3-5% เนื่องจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อยังคงติดลบอยู่ และในการวางเป้าหมายธนาคารคาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีกว่าที่เกิดขึ้น แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจแย่กว่าที่คาด จึงทำให้สินเชื่อไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย
“ขณะนี้ความต้องการสินเชื่อเริ่มกลับมาดีขึ้น และดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงมองว่าความต้องการสินเชื่อในปีหน้าจะมีมากขึ้นกว่าในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนความสามารถการสร้างกำไรของธนาคารนั้น ขณะนี้ไม่ได้มาจากสินเชื่อเพียงอย่างเดียว แต่ธนาคารต้องควบคุมและบริหารต้นทุนรวมทั้งค่าธรรมเนียมอย่างเหมาะสม เพื่อชดเชยรายได้จากดอกเบี้ยที่ขยายตัวได้ไม่มากนัก” นางกรรณิกากล่าว
ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั้งดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในขณะนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ 1.25% แต่คาดว่าจะขยับ 0.25-0.50% ในช่วงครึ่งปีหลัง 2553 เนื่องจากรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้มีความชัดเจนก่อน
“ดูแนวทางแล้ว ดอกเบี้ยตอนนี้คงยังไม่เปลี่ยนแปลง จนกระทั่งประมาณครึ่งปีหลัง 53 แต่อาจขยับขึ้นไม่มาก เพราะเศรษฐกิจดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งถ้าเปลี่ยนดอกเบี้ยเร็วเกินไป จะกระทบต่อการฟื้นตัว สำหรับแบงก์ ก็คงเดินตามดอกเบี้ยนโยบายเป็นหลัก โดยต้องดูว่าแบงก์ชาติจะว่าอย่างไร” นางกรรณิกากล่าว
สำหรับสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันพบว่า ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในปีหน้าอาจจะลดลง เนื่องจากหากพิจารณาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดว่าจีดีพีจะโต 3-3.5% นั้น ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อดีขึ้นกว่าในปีนี้ จึงทำให้สภาพคล่องลดลงตาม
นางกรรณิกากล่าวว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์จัดทำโครงการไมโครไฟแนนซ์นั้น นางกรรณิกา กล่าวว่า สภาวะองค์กรในปัจจุบันคงทำในเรื่องดังกล่าวไม่ได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงมากที่จะไม่ได้รับเงินกู้กลับคืนมา ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาด้วย
“องค์กรปัจจุบันทำไม่ได้ ซึ่งต้องทำกันคนละแบบ โดยตอนนี้เรายังไม่มีแผนที่จะทำ เพราะเกรงว่าหากทำโดยไม่พร้อม ก็เอาเงินกลับมาไม่ได้เช่นกัน และจะสร้างปัญหาตามมา”นางกรรณิกา กล่าว
ด้านนายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์สินเชื่อลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้จัดงานมหกรรมสินเชื่อบ้าน “SCB Home Loan Expo 2009” งานเดียวโดนใจ จับมือพันธมิตรอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 6 แห่งนำเสนอบ้านในราคาและเงื่อนไขพิเศษสุด พร้อมมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 1 ปี